โฟล์กสวาเกนประกาศในวันพฤหัสบดี(12)ว่า กำลังเร่งเครื่องขยายผลจากการประกอบการปี 2008 ที่มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งกลับตาลปัตรจากยักษ์ใหญ่รถยนต์อื่นๆ ที่ต่างขาดทุนยับเยิน ทั้งนี้ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะแซงหน้าเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และโตโยต้า ให้ได้ภายในเวลา 9 ปี
โฟล์กนั้นเป็นบริษัทรถยนต์ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และของยุโรปอยู่แล้ว และตอนนี้บริษัทก็มีเป้าหมายที่ขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2018
แม้ว่าตอนนี้ยังห่างชั้นกับอันดับหนึ่งและสองของโลกอย่างจีเอ็มและโตโยต้ามากนัก แต่โฟล์กก็มีข้อได้เปรียบสำคัญตรงที่ทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเสมือนน้ำมันที่มีพลังสูงลิ่ว
มาร์ติน วินเทอร์คอร์น ซีอีโอของโฟล์กกล่าวในระหว่างการแถลงข่าววันพฤหัสบดีว่า หลังจากวิกฤตครั้งนี้ เขาก็เห็นโฟล์กสวาเกนกำลังอยู่ในตำแหน่งนำ
“เรากำลังวิ่งอยู่บนทางด่วน และน้ำมันของเราก็เต็มถัง”
โฟล์กสวาเกนเวลานี้ครองอันดับสามของบริษัทรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยยอดขาย 6.3 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่จีเอ็มและโตโยต้าที่กำลังเบียดกันในอันดับสองและหนึ่งนั้น แต่ละบริษัทต่างขายได้มากกว่า 8 ล้านคัน
โฟล์กนั้นเป็นบริษัทรถยนต์ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และของยุโรปอยู่แล้ว และตอนนี้บริษัทก็มีเป้าหมายที่ขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2018
แม้ว่าตอนนี้ยังห่างชั้นกับอันดับหนึ่งและสองของโลกอย่างจีเอ็มและโตโยต้ามากนัก แต่โฟล์กก็มีข้อได้เปรียบสำคัญตรงที่ทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเสมือนน้ำมันที่มีพลังสูงลิ่ว
มาร์ติน วินเทอร์คอร์น ซีอีโอของโฟล์กกล่าวในระหว่างการแถลงข่าววันพฤหัสบดีว่า หลังจากวิกฤตครั้งนี้ เขาก็เห็นโฟล์กสวาเกนกำลังอยู่ในตำแหน่งนำ
“เรากำลังวิ่งอยู่บนทางด่วน และน้ำมันของเราก็เต็มถัง”
โฟล์กสวาเกนเวลานี้ครองอันดับสามของบริษัทรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยยอดขาย 6.3 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่จีเอ็มและโตโยต้าที่กำลังเบียดกันในอันดับสองและหนึ่งนั้น แต่ละบริษัทต่างขายได้มากกว่า 8 ล้านคัน