น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมด้วย น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ผู้ฟ้องคดีที่ 4 เครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดสมุทรสงคราม เข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด ให้เปิดไต่สวนกรณี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แบ่งแยกทรัพย์สินคืนแก่แผ่นดินไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด โดย ปตท. ได้แบ่งแยกทรัพย์สินคืนแก่แผ่นดินเพียง 16,176 ล้านบาท ยังเหลือทรัพย์สินแผ่นดินที่ไม่ได้โอนคืนอีกกว่า 189,715 ล้านบาท กรณีศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2550 ให้แบ่งแยกทรัพย์สินของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมและอำนาจมหาชนของรัฐ จาก ปตท. คืนให้แก่รัฐ
น.ส.สารี กล่าวว่า ทรัพย์สินซึ่ง ปตท. ได้แบ่งแยกคืนให้แก่แผ่นดินเมื่อเดือนธันวาคม 2551 มูลค่ารวมทั้งสิ้น 16,176.22 ล้านบาท ประกอบด้วยที่ดินเวนคืน 1.42 ล้านบาท สิทธิการใช้ที่ดิน 1,124.11 ล้านบาท และระบบท่อก๊าซธรรมชาติในที่ดินเวนคืนและที่ดินรอนสิทธิ 3 โครงการอีก 15,050.69 ล้านบาท โดยทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยก่อนที่จะมีแปรรูปมาเป็น บมจ.ปตท. ในวันที่ 1 ตุลาคม 2544 ซึ่งการโอนคืนทรัพย์สินของ ปตท.จำนวนดังกล่าวไม่สอดคล้องกับการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ ปตท. ยังต้องคืนทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก 32,613 ล้านบาท และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมขององค์กรผู้บริโภคพบว่า ทรัพย์สินที่เกิดขึ้นหลังจากการแปรรูป ปตท.ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 ไม่มีการโอนคืนแต่อย่างใด ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 157,102 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดได้มาด้วยการใช้อำนาจมหาชนที่ ปตท. จะต้องคืนให้แก่รัฐตามคำพิพากษาของศาลเช่นกัน
น.ส.สารี กล่าวว่า ทรัพย์สินซึ่ง ปตท. ได้แบ่งแยกคืนให้แก่แผ่นดินเมื่อเดือนธันวาคม 2551 มูลค่ารวมทั้งสิ้น 16,176.22 ล้านบาท ประกอบด้วยที่ดินเวนคืน 1.42 ล้านบาท สิทธิการใช้ที่ดิน 1,124.11 ล้านบาท และระบบท่อก๊าซธรรมชาติในที่ดินเวนคืนและที่ดินรอนสิทธิ 3 โครงการอีก 15,050.69 ล้านบาท โดยทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยก่อนที่จะมีแปรรูปมาเป็น บมจ.ปตท. ในวันที่ 1 ตุลาคม 2544 ซึ่งการโอนคืนทรัพย์สินของ ปตท.จำนวนดังกล่าวไม่สอดคล้องกับการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ ปตท. ยังต้องคืนทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก 32,613 ล้านบาท และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมขององค์กรผู้บริโภคพบว่า ทรัพย์สินที่เกิดขึ้นหลังจากการแปรรูป ปตท.ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 ไม่มีการโอนคืนแต่อย่างใด ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 157,102 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดได้มาด้วยการใช้อำนาจมหาชนที่ ปตท. จะต้องคืนให้แก่รัฐตามคำพิพากษาของศาลเช่นกัน