นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจเดือนมกราคม 2552 ยังคงหดตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจทุกตัวปรับตัวลดลง โดยรายได้เกษตรกรขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงที่ร้อยละ 8.6 ชะลอลงจากเดือนธันวาคมปี 2551 ที่ร้อยละ 20.3 สาเหตุผลผลิตยางพาราและอ้อยลดลง ขณะที่ราคาพืชผลการเกษตรยังหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย
นอกจากนี้ ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ 21.3 โดยเฉพาะหมวดอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 57.1 ขณะที่การอุปโภคบริโภคหดตัวร้อยละ 4.5 การลงทุนภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 7.9 สอดคล้องกับการนำเข้าเดือนมกราคมที่หดตัวถึงร้อยละ 36.5 มูลค่านำเข้า 8,694 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนภาคการส่งออกหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หดตัวร้อยละ 25.3
ส่วนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเคลื่อนไหว 36.06-36.08 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นางอมรา กล่าวว่า เป็นไปตามภาวะปกติสอดคล้องกับเงินสกุลภูมิภาค เนื่องจากค่าเงินเยนและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น สาเหตุนักลงทุนเข้ามาถือครองเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไรจากมาตรการกอบกู้เศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัก โอบามา จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่าและสกุลอื่นอ่อนค่าลง
นอกจากนี้ ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ 21.3 โดยเฉพาะหมวดอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 57.1 ขณะที่การอุปโภคบริโภคหดตัวร้อยละ 4.5 การลงทุนภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 7.9 สอดคล้องกับการนำเข้าเดือนมกราคมที่หดตัวถึงร้อยละ 36.5 มูลค่านำเข้า 8,694 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนภาคการส่งออกหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หดตัวร้อยละ 25.3
ส่วนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเคลื่อนไหว 36.06-36.08 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นางอมรา กล่าวว่า เป็นไปตามภาวะปกติสอดคล้องกับเงินสกุลภูมิภาค เนื่องจากค่าเงินเยนและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น สาเหตุนักลงทุนเข้ามาถือครองเงินดอลลาร์เพื่อเก็งกำไรจากมาตรการกอบกู้เศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัก โอบามา จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่าและสกุลอื่นอ่อนค่าลง
