นายธรรมรัต หวั่งหลี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการนำร่องเพื่อระบบการสำรองข้าวในเอเชียตะวันออก ซึ่งจัดการประชุมขึ้นที่ประเทศกัมพูชา ได้มีการหารือถึงความคืบหน้า ในการเตรียมการต่างๆ ในการปรับเปลี่ยนโครงการนำร่องระบบสำรองข้าวในภูมิภาคอาเซียนให้เป็นองค์กรถาวร ในอนาคต ตามมติที่ประชุมรัฐมนตรีด้านการเกษตรป่าไม้และประมงของประเทศอาเซียนบวก 3 ที่จะช่วยสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารของภูมิภาค และเพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับการรับมือกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ในช่วงที่มีการขยายระยะเวลาโครงการนำร่องระบบสำรองข้าว ออกไปอีก 1 ปี จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553 จะให้ประเทศสมาชิกมีเวลาพิจารณาในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินการจัดตั้ง โดยประเทศญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุนงบประมาณในช่วงนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นที่ประชุมได้เสนอให้เพิ่มคณะกรรมการภายใต้ข้อตกลง ซึ่งเดิมมี 13 คน เป็น 16 คน เพื่อให้ผู้แทนที่เพิ่มขึ้น มาทำหน้าที่แทนคณะกรรมการในการประสานงานกับฝ่ายเลขานุการขององค์กรอย่างใกล้ชิด และสามารถผลักดันให้การจัดตั้งองค์กรถาวรระบบสำรองข้าวเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของโครงการระบบสำรองข้าวในปี 2551 ประเทศสมาชิกได้บริจาคข้าว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้แก่สมาชิก ซึ่งแม้ว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกไม่ให้เกิดความอดอยาก และขาดแคลนอาหารได้ แต่ยังเกิดปัญหาความล่าช้าอยู่บ้าง ดังนั้นที่ประชุมจึงได้เสนอให้มีการทบทวนและพิจารณาบทบาทของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจระบายข้าวในโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันที
ทั้งนี้ในช่วงที่มีการขยายระยะเวลาโครงการนำร่องระบบสำรองข้าว ออกไปอีก 1 ปี จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553 จะให้ประเทศสมาชิกมีเวลาพิจารณาในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินการจัดตั้ง โดยประเทศญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุนงบประมาณในช่วงนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นที่ประชุมได้เสนอให้เพิ่มคณะกรรมการภายใต้ข้อตกลง ซึ่งเดิมมี 13 คน เป็น 16 คน เพื่อให้ผู้แทนที่เพิ่มขึ้น มาทำหน้าที่แทนคณะกรรมการในการประสานงานกับฝ่ายเลขานุการขององค์กรอย่างใกล้ชิด และสามารถผลักดันให้การจัดตั้งองค์กรถาวรระบบสำรองข้าวเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของโครงการระบบสำรองข้าวในปี 2551 ประเทศสมาชิกได้บริจาคข้าว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้แก่สมาชิก ซึ่งแม้ว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกไม่ให้เกิดความอดอยาก และขาดแคลนอาหารได้ แต่ยังเกิดปัญหาความล่าช้าอยู่บ้าง ดังนั้นที่ประชุมจึงได้เสนอให้มีการทบทวนและพิจารณาบทบาทของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจระบายข้าวในโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันที