วานนี้ (19 ก.พ.) กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุมชน จากอำเภอบางสะพาน ประมาณ 70 คน ประกอบด้วย ต.แม่รำพึง ต.พงศ์ประศาสน์ และ ต.กำเนิดนพคุณ เดินทางไปศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับนายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องในโอกาสที่อำเภอหัวหินได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมผู้นำอาเซียน (อาเซียนซัมมิท) ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2552
นายสมบูรณ์ ภู่งาม แกนนำกลุ่มสมานฉันท์ กล่าวว่า ได้มอบกระเช้าดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสนับสนุนการประชุมอาเซียนซัมมิท ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าหลายกลุ่มหลายองค์กรจะออกมาก่อความเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความวุ่นวาย พวกตนจึงขอเป็นตัวแทนว่ายังมีตัวแทนจากชาวบ้านตัวจริงเสียจริงที่รักความสงบสุข และอยากเห็นเมืองไทยเป็นเจ้าภาพที่ดี จึงยืนยันว่าไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะใน อ.หัวหิน ซึ่งเป็นเมืองที่ประทับขององค์ในหลวง เพราะอยากเห็นท่านแย้มพระสรวลมากกว่าเสียพระทัย
แกนนำกลุ่มสมานฉันท์ กล่าวว่า ในฐานะประชาชนตัวจริงเสียจริง ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ต่างอยู่กันแบบสงบสุข อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม และชุมชน อยู่ร่วมกันด้วยดี มีเพียงบางกลุ่มบุคคลที่กำลังพยายามสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และกำลังจะทำให้ความขัดแย้งนี้ขยายภาพลบให้เกิดขึ้นกับนานาประเทศที่จะมาร่วมประชุม
ขณะที่นายประกอบ คงทัพ กำนันตำบลพงศ์ประศาสน์ กล่าวว่า อาเซียนซัมมิทเป็นงานใหญ่ระดับประเทศและเป็นหน้าตาของคนประจวบคีรีขันธ์ ที่จะมีผู้นำจาก 10 ประเทศเข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ผ่านมามีกลุ่มที่จะมาคัดค้าน จึงอยากมาให้กำลังใจ และแสดงให้เห็นว่ายังมีคนสนับสนุนแนวทางของผู้ว่าราชการจังหวัด และคนประจวบคีรีขันธ์ยังมีความสามัคคี
ทางด้านนายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเจ้าภาพร่วมกับจังหวัดเพชรบุรีจัดการประชุมอาเซียน ซัมมิท ซึ่งรัฐบาลเห็นศักยภาพของภูมิภาคนี้ ประกอบกับหัวหินมีชื่อเสียงระดับโลก รัฐบาลต้องการให้การประชุมสงบและราบรื่น จึงได้เลือกที่แห่งนี้เป็นการประชุม
สำหรับความคิดเห็นที่แตกต่างมีตั้งแต่ระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยในภูมิภาคนี้ยังมีความแตกแยกทางความคิดเรื่องของการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำเสีย ขยะ หรืออุตสาหกรรม ซึ่งเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย ที่รัฐต้องปกครองโดยฟังเสียงประชาชน หากชุมชนไม่ยอมให้ทำก็ทำไม่ได้ เช่น การทำบ่อขยะ ชุมชนไม่ให้ทำก็ทำไม่ได้ แล้วขยะไปไหนชุมชนก็ต้องเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบ ส่วนที่บางสะพานเป็นเรื่องของเอกชนดำเนินการ จึงเป็นเรื่องแค่ฟังเสียงประชาชน ซึ่งวันนี้รัฐบาลประกาศชัดเจนแล้วว่าต้องเร่งให้มีการลงทุน จึงได้ชวนชาวต่างชาติมาลงทุน ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนญี่ปุ่นและพูดถึงการตั้งอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ 3 แห่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วันนี้ขอพูดอย่างเป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้คัดค้านหรือผู้สนับสนุน ถ้านโยบายรัฐว่าต้องทำก็ต้องทำ ขัดแย้งก็ว่าไป ถ้ารัฐบาลไม่แน่ใจก็ลำบาก ซึ่งที่ผ่านมารัฐไม่มีความชัดเจน แต่วันนี้รัฐประกาศชัดเจนแล้ว เราก็ต้องอยู่ร่วมกันต่อไป ความขัดแย้งอย่าให้ถึงขั้นวิวาทเหมือนที่ผ่านมาให้พยายามพูดคุยกันใครมีหน้าที่ก็ทำตามหน้าที่ไม่ใช่ยุยงให้คนมาปะทะกัน และเมื่อวันนี้รัฐมีนโยบายชัดเจน และถ้าผู้ลงทุนเขาทำตามกฎหมายครบถ้วนก็ย่อมทำได้ใครละเมิดก็มีกฎหมายอาญารองรับ ซึ่งความแตกต่างทางความคิดสามารถทำได้ แต่เราก็ต้องฟังเสียงคนส่วนมาก ตามระบอบประชาธิปไตยยึดถือประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
นายสมบูรณ์ ภู่งาม แกนนำกลุ่มสมานฉันท์ กล่าวว่า ได้มอบกระเช้าดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสนับสนุนการประชุมอาเซียนซัมมิท ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าหลายกลุ่มหลายองค์กรจะออกมาก่อความเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความวุ่นวาย พวกตนจึงขอเป็นตัวแทนว่ายังมีตัวแทนจากชาวบ้านตัวจริงเสียจริงที่รักความสงบสุข และอยากเห็นเมืองไทยเป็นเจ้าภาพที่ดี จึงยืนยันว่าไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะใน อ.หัวหิน ซึ่งเป็นเมืองที่ประทับขององค์ในหลวง เพราะอยากเห็นท่านแย้มพระสรวลมากกว่าเสียพระทัย
แกนนำกลุ่มสมานฉันท์ กล่าวว่า ในฐานะประชาชนตัวจริงเสียจริง ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ต่างอยู่กันแบบสงบสุข อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม และชุมชน อยู่ร่วมกันด้วยดี มีเพียงบางกลุ่มบุคคลที่กำลังพยายามสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และกำลังจะทำให้ความขัดแย้งนี้ขยายภาพลบให้เกิดขึ้นกับนานาประเทศที่จะมาร่วมประชุม
ขณะที่นายประกอบ คงทัพ กำนันตำบลพงศ์ประศาสน์ กล่าวว่า อาเซียนซัมมิทเป็นงานใหญ่ระดับประเทศและเป็นหน้าตาของคนประจวบคีรีขันธ์ ที่จะมีผู้นำจาก 10 ประเทศเข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ผ่านมามีกลุ่มที่จะมาคัดค้าน จึงอยากมาให้กำลังใจ และแสดงให้เห็นว่ายังมีคนสนับสนุนแนวทางของผู้ว่าราชการจังหวัด และคนประจวบคีรีขันธ์ยังมีความสามัคคี
ทางด้านนายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเจ้าภาพร่วมกับจังหวัดเพชรบุรีจัดการประชุมอาเซียน ซัมมิท ซึ่งรัฐบาลเห็นศักยภาพของภูมิภาคนี้ ประกอบกับหัวหินมีชื่อเสียงระดับโลก รัฐบาลต้องการให้การประชุมสงบและราบรื่น จึงได้เลือกที่แห่งนี้เป็นการประชุม
สำหรับความคิดเห็นที่แตกต่างมีตั้งแต่ระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยในภูมิภาคนี้ยังมีความแตกแยกทางความคิดเรื่องของการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำเสีย ขยะ หรืออุตสาหกรรม ซึ่งเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย ที่รัฐต้องปกครองโดยฟังเสียงประชาชน หากชุมชนไม่ยอมให้ทำก็ทำไม่ได้ เช่น การทำบ่อขยะ ชุมชนไม่ให้ทำก็ทำไม่ได้ แล้วขยะไปไหนชุมชนก็ต้องเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบ ส่วนที่บางสะพานเป็นเรื่องของเอกชนดำเนินการ จึงเป็นเรื่องแค่ฟังเสียงประชาชน ซึ่งวันนี้รัฐบาลประกาศชัดเจนแล้วว่าต้องเร่งให้มีการลงทุน จึงได้ชวนชาวต่างชาติมาลงทุน ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนญี่ปุ่นและพูดถึงการตั้งอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ 3 แห่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า วันนี้ขอพูดอย่างเป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้คัดค้านหรือผู้สนับสนุน ถ้านโยบายรัฐว่าต้องทำก็ต้องทำ ขัดแย้งก็ว่าไป ถ้ารัฐบาลไม่แน่ใจก็ลำบาก ซึ่งที่ผ่านมารัฐไม่มีความชัดเจน แต่วันนี้รัฐประกาศชัดเจนแล้ว เราก็ต้องอยู่ร่วมกันต่อไป ความขัดแย้งอย่าให้ถึงขั้นวิวาทเหมือนที่ผ่านมาให้พยายามพูดคุยกันใครมีหน้าที่ก็ทำตามหน้าที่ไม่ใช่ยุยงให้คนมาปะทะกัน และเมื่อวันนี้รัฐมีนโยบายชัดเจน และถ้าผู้ลงทุนเขาทำตามกฎหมายครบถ้วนก็ย่อมทำได้ใครละเมิดก็มีกฎหมายอาญารองรับ ซึ่งความแตกต่างทางความคิดสามารถทำได้ แต่เราก็ต้องฟังเสียงคนส่วนมาก ตามระบอบประชาธิปไตยยึดถือประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก