น.พ.วัฒนา นาวาเจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยถึงปัญหาหมอกควันไฟปกคลุมพื้นที่มากว่าสัปดาห์ว่า ที่ผ่านมามีประชาชนเข้ารับการรักษาอาการแสบตา แสบจมูก และไอเพิ่มขึ้นนับร้อยราย ซึ่งผ้าปิดปากปิดจมูกไม่สามารถป้องกันหมอกควันได้ ต้องใช้หน้ากากป้องกัน โดยผู้ป่วยบางรายอาการหนักต้องย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นแทนชั่วคราว เพราะหายใจไม่สะดวก
ส่วนสภาพอากาศวันนี้ (15 ก.พ.) มีหมอกหนาแน่นขึ้น นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นดอยสุเทพไม่สามารถถ่ายภาพทัศนียภาพเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ที่โรงเรียนยุพราช รายงานสภาพอากาศว่า มีฝุ่นละอองขนาดเล็กจากควันไฟเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 109 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร เกือบถึงเกณฑ์มาตรฐานที่ฝุ่นละอองจะต้องไม่เกิน 120 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่จังหวัดลำพูนมีฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน 126 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร จังหวัดแพร่ 171 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนลำปางมากถึง 232 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง
ส่วนสภาพอากาศวันนี้ (15 ก.พ.) มีหมอกหนาแน่นขึ้น นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นดอยสุเทพไม่สามารถถ่ายภาพทัศนียภาพเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ที่โรงเรียนยุพราช รายงานสภาพอากาศว่า มีฝุ่นละอองขนาดเล็กจากควันไฟเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 109 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร เกือบถึงเกณฑ์มาตรฐานที่ฝุ่นละอองจะต้องไม่เกิน 120 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่จังหวัดลำพูนมีฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน 126 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร จังหวัดแพร่ 171 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนลำปางมากถึง 232 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง