นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนนตรีว่าการกระทรวงศึกษา พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมอาการนายประเสริม ระไวกลาง อายุ 45 ปี พนักงานช่างซ่อมบำรุง บริษัทวีแอนด์มี สยามพลาสติก ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เด็กนักเรียนอาชีวะรุมทำร้ายผิดตัว จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางไผ่ เขตบางแค โดยอาการทั่วไปของนายประเสริม ดีขึ้น สามารถขยับร่างกายและสื่อสารเป็นคำพูดได้ ทั้งนี้ ยังคงต้องรอรับการรักษาศัลยกรรมตกแต่งบริเวณริมฝีปากทั้งสองด้าน อีกประมาณ 1 อาทิตย์ จึงจะสามารถกลับบ้านได้
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเป็นห่วง เนื่องจากปัจจุบันพบปัญหาเด็กนักเรียนอาชีวะตีกัน มีความรุนแรงและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน อย่างกรณีของนายประเสริม ก็น่าจะเป็นกรณีตัวอย่างที่จะกระตุ้นให้ทุกฝ่ายหันมาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ปกครอง หรือแม้แต่ตัวของนักเรียนเอง โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ที่จะต้องมีการแยกเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง พร้อมคอยเฝ้าสังเกตการณ์พฤติกรรม ซึ่งหากพบการกระทำความผิดก็จะต้องนำมาตรการลงโทษมาใช้อย่างจริงจัง และหากเกิดปัญหาที่สถาบันไหน ผู้บริหารสถาบันก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งกำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามเด็กนักเรียนที่มีการกระทำความผิด พร้อมติดตามหาเบาะแสผู้กระทำความผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ปล่อยปละละเลย เมื่อเหตุการณ์สงบลงต้องมีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา
ด้านนายประเสริม ผู้บาดเจ็บ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า ไม่เคยคิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์ดังกล่าวกับตัวเอง ทั้งยังทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องต้องมาประสบเคราะห์ ดังนั้นจึงอยากให้กลุ่มนักเรียนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้หยุดการกระทำ และหันกลับมาตั้งใจเรียนหนังสือ พร้อมฝากเตือนถึงพ่อแม่ ผู้ปกครอง ช่วยอบรมดูแลลูกหลานให้ใกล้ชิดกว่าที่เป็นอยู่
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเป็นห่วง เนื่องจากปัจจุบันพบปัญหาเด็กนักเรียนอาชีวะตีกัน มีความรุนแรงและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน อย่างกรณีของนายประเสริม ก็น่าจะเป็นกรณีตัวอย่างที่จะกระตุ้นให้ทุกฝ่ายหันมาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ปกครอง หรือแม้แต่ตัวของนักเรียนเอง โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ที่จะต้องมีการแยกเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง พร้อมคอยเฝ้าสังเกตการณ์พฤติกรรม ซึ่งหากพบการกระทำความผิดก็จะต้องนำมาตรการลงโทษมาใช้อย่างจริงจัง และหากเกิดปัญหาที่สถาบันไหน ผู้บริหารสถาบันก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งกำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามเด็กนักเรียนที่มีการกระทำความผิด พร้อมติดตามหาเบาะแสผู้กระทำความผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ปล่อยปละละเลย เมื่อเหตุการณ์สงบลงต้องมีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา
ด้านนายประเสริม ผู้บาดเจ็บ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า ไม่เคยคิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์ดังกล่าวกับตัวเอง ทั้งยังทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องต้องมาประสบเคราะห์ ดังนั้นจึงอยากให้กลุ่มนักเรียนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้หยุดการกระทำ และหันกลับมาตั้งใจเรียนหนังสือ พร้อมฝากเตือนถึงพ่อแม่ ผู้ปกครอง ช่วยอบรมดูแลลูกหลานให้ใกล้ชิดกว่าที่เป็นอยู่