xs
xsm
sm
md
lg

คาดวุฒิฯ-สภาล่างสหรัฐฯยอมผ่านแผนกระตุ้นศก.ฉบับรวมร่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตัวแทนเจรจาของวุฒิสภาและสภาผู้แทนฯสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงกันได้แล้วเมื่อวันพุธ(11) ในการรวมร่างกฎหมายแผนกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลายเป็นฉบับเดียวกัน โดยที่ร่างล่าสุดนี้ซึ่งทั้งในส่วนของการสร้างงานภาครัฐและการลดภาษีมีมูลค่ารวม 789,000 ล้านดอลลาร์ กำหนดส่งกลับไปให้สภาทั้งสองลงมติขั้นสุดท้ายภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาติดขัดอะไรอีก และเท่ากับว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ชัยชนะเสียที ในการผลักดันสิ่งที่เขาระบุว่ามีความสำคัญยิ่งต่อการดึงเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะถดถอยอย่างดิ่งเหว

ทั้งนี้ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลดังกล่าวนี้ มีเป้าหมายที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะถดถอยที่กำลังเกิดขึ้น แต่ยังจะต้องรอการลงมติรับรองขั้นสุดท้ายจากสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดี(12) และอาจส่งต่อให้วุฒิสภาซึ่งอาจลงมติในเย็นวันเดียวกัน หรือไม่ก็เป็นวันศุกร์(13)

ด้านโอบามากล่าวว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยไม่ให้คนอเมริกันต้องตกงานเพิ่มขึ้นและสร้างงานใหม่ด้วย อีกทั้ง "จะทำให้เศรษฐกิจของเรากลับเข้าร่องเข้ารอยเสียที"

การผลักดันร่างกฎหมายแผนกระตุ้นเศรษฐกิจให้ผ่านรัฐสภา แม้พรรคเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา ทว่าเนื่องจากในวุฒิสภานั้นมีระเบียบข้อบังคับว่า จะต้องมีเสียง 3 ใน 5 นั่นคือ 60 เสียงจากทั้งหมด 100 เสียง จึงจะสามารถเสนอให้ปิดการอภิปรายและลงมติได้ ขณะที่เดโมแครตเวลานี้มีที่นั่งอยู่ 58 ด้วยเหตุนี้ ทางฝ่ายเดโมแครตจึงต้องใช้ท่าทีประนีประนอม เพื่อดึงเสียงฝ่ายกลางๆ ของรีพับลิกันมาร่วมมือด้วย ตั้งแต่ขั้นตอนผลักดันให้วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายนี้ ไปจนถึงในการเจรจาต่อรองเพื่อทำให้ร่างกฎหมายจากทั้งสองสภากลายเป็นร่างกฎหมายฉบับเดียวกัน

มีรายงานว่าระหว่างการเจรจาเพื่อร่วมร่างคราวนี้ วุฒิสมาชิกสายกลางของรีพับลิกัน 3 คน คือซูซาน คอลลินส์ โอลิมเปีย สโนว์ และอาร์เลน สเปคเตร์ ได้เรียกร้องให้ปรับลดงบประมาณของแผนการนี้ลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า 800,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับเสียงสนับสนุนของพวกตน โดยวุฒิสมาชิกคอลลินส์เสนอให้ปรับลดยอดเงินช่วยลดการขาดดุลงบประมาณของมลรัฐต่างๆ และปรับปรุงโรงเรียนลงมารวมกันอยู่ที่ 54,000 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอช่วยลดการขาดดุลงบประมาณ 79,000 ล้านดอลลาร์ และอีก 14,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการก่อสร้างโรงเรียน ในขณะที่วุฒิสภาเสนอปรับลดค่าใช้จ่ายทั้งสองมาอยู่ที่ 39,000 ล้านดอลลาร์และ 16,000 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น