แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนไทย ในฐานะคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น แม่สอด-เมียวดี (ฝ่ายไทย) หรือ TBC แม่สอด-เมียวดี กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหารถตู้โดยสารพม่า ที่ถูกผู้ประกอบการรถสองแถวรับจ้าง แม่สอด-ริมเมย ร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการคมนาคมสภาผู้แทนราษฎรและหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่า ถูกรถพม่าแย่งคิวและวิ่งทับเส้นทางทำให้ขาดรายได้ไม่มีเงินทองเลี้ยงดูครอบครัว ว่า คณะกรรมการ TBC ฝ่ายไทย ได้เสนอให้ฝ่ายพม่า นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม TBC ครั้งที่ 29 หรือครั้งที่ 1/2552 ซึ่งฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ที่จะจัดขึ้นในเร็วๆ นี้ เพราะรถตู้พม่ากับสองแถวไทยเป็นปัญหาเรื้อรังมานานซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาบานปลายหากไม่เร่งแก้ไขหรือหาทางออกให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่ง TBC พม่า ได้รับเรื่องไว้และแจ้งว่าจะเสนอหน่วยเหนือเพื่อขอนำปัญหานี้พูดเจรจาในที่ประชุมระดับท้องถิ่น โดยคณะกรรมการ TBC แม่สอด-เมียวดี จะให้ความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการรถโดยสารทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ให้มีการกระทบกระทั่งหรือได้เปรียบเสียเปรียบกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัญหารถตู้พม่าแย่งคิวและวิ่งทับเส้นทางรถสองแถวไทย เกิดขึ้นมานาน แต่ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ เคยมีเงื่อนไขและข้อตกลงเดิมของท้องถิ่นว่ารถตู้พม่าจะวิ่งเข้ามารับส่งผู้โดยสารได้วันละ 40 คัน หรือ 40 เที่ยวต่อวัน แต่ปรากฏว่า เกินจำนวนที่ตกลงกันไว้ ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีการยื่นหนังสือแจ้งถึงความเดือดร้อนให้กรรมาธิการคมนาคมสภาผู้แทนราษฎร ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายอำเภอแม่สอด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการประท้วงเพื่อบังคับให้รถตู้พม่าวิ่งมาได้เพียง 40 คัน/วัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลระเบียบและกฎหมายการเข้า-ออก นอกราชอาณาจักร หรือ พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงว่าตามสภาพข้อเท็จจริงไม่สามารถปฎิบัติได้เพราะกฎหมายระหว่างประเทศนั้นไม่สามารถบังคับการเข้า-ออกนอกเมือง หรือนอกประเทศ หรือกำหนดสัดส่วนจำนวนประชาชนหรือยวดยาน-ยานพาหนะต่างๆ ของประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านในการเข้าเมืองตามกฎหมายที่ถูกต้องได้ เนื่องจากหากเป็นเช่นนั้น ฝ่ายพม่าก็อาจจะกำหนดการเข้า-ออกของประชาชน หรือรถยนต์บรรทุกจากฝ่ายไทยได้เช่นกัน ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศตามหลักสากลไม่มี
อย่างไรก็ตามเข้าหน้าที่ในระดับท้องถิ่น แม่สอด-เมียวดี กำลังหาแนวทางออกในเรื่องนี้ในที่ประชุม TBC โดยก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการรถสองแถวไทย แม่สอด-ริมเมย ได้ขู่จะปิดถนนเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ระหว่างที่นาย นายสุรพล เกียรติไชยากร ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณากลั่นกรอง และติดตามผลการดำเนินงาน ของคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมและศึกษาดูงานเรื่อง "รถโดยสารผิดกฎหมายในเขต อ.แม่สอด จ.ตาก" ที่เทศบาลเมืองแม่สอด โดยมีการประชุมร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธร ด่านศุลกากร หอการค้า และตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสาร เพื่อหาทางออกแต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างไร
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัญหารถตู้พม่าแย่งคิวและวิ่งทับเส้นทางรถสองแถวไทย เกิดขึ้นมานาน แต่ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ เคยมีเงื่อนไขและข้อตกลงเดิมของท้องถิ่นว่ารถตู้พม่าจะวิ่งเข้ามารับส่งผู้โดยสารได้วันละ 40 คัน หรือ 40 เที่ยวต่อวัน แต่ปรากฏว่า เกินจำนวนที่ตกลงกันไว้ ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีการยื่นหนังสือแจ้งถึงความเดือดร้อนให้กรรมาธิการคมนาคมสภาผู้แทนราษฎร ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายอำเภอแม่สอด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการประท้วงเพื่อบังคับให้รถตู้พม่าวิ่งมาได้เพียง 40 คัน/วัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลระเบียบและกฎหมายการเข้า-ออก นอกราชอาณาจักร หรือ พรบ.ตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงว่าตามสภาพข้อเท็จจริงไม่สามารถปฎิบัติได้เพราะกฎหมายระหว่างประเทศนั้นไม่สามารถบังคับการเข้า-ออกนอกเมือง หรือนอกประเทศ หรือกำหนดสัดส่วนจำนวนประชาชนหรือยวดยาน-ยานพาหนะต่างๆ ของประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านในการเข้าเมืองตามกฎหมายที่ถูกต้องได้ เนื่องจากหากเป็นเช่นนั้น ฝ่ายพม่าก็อาจจะกำหนดการเข้า-ออกของประชาชน หรือรถยนต์บรรทุกจากฝ่ายไทยได้เช่นกัน ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศตามหลักสากลไม่มี
อย่างไรก็ตามเข้าหน้าที่ในระดับท้องถิ่น แม่สอด-เมียวดี กำลังหาแนวทางออกในเรื่องนี้ในที่ประชุม TBC โดยก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการรถสองแถวไทย แม่สอด-ริมเมย ได้ขู่จะปิดถนนเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ระหว่างที่นาย นายสุรพล เกียรติไชยากร ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณากลั่นกรอง และติดตามผลการดำเนินงาน ของคณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมและศึกษาดูงานเรื่อง "รถโดยสารผิดกฎหมายในเขต อ.แม่สอด จ.ตาก" ที่เทศบาลเมืองแม่สอด โดยมีการประชุมร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธร ด่านศุลกากร หอการค้า และตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสาร เพื่อหาทางออกแต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างไร
