นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ นางสาวสำราญ เอี่ยมกลั่น ชาว จ.สิงห์บุรี ได้ร้องเรียนให้แพทยสภาและคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินกฎหมายกับโรงพยาบาลบางละมุง กรณีเปลี่ยนท่อปัสสาวะ นายสมบัติ เอี่ยมกลั่น อายุ 28 ปี น้องชาย ที่พิการท่อนล่าง ผิดพลาดจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ว่าเรื่องดังกล่าวได้สั่งการตรงไปยังโรงพยาบาลบางละมุง ให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วน เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และให้เภสัชกรมานิตย์ อรุณากูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกันได้กำชับให้แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ ให้ความสำคัญกับการพูดคุยแนวทางการรักษาพยาบาลกับผู้ป่วยและญาติให้เข้าใจตรงกันทุกครั้ง
ทั้งนี้ นายแพทย์ประสิทธิ์ จิตติวัฒนพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางละมุง รายงานว่า โรงพยาบาลบางละมุงได้รับตัวนายสมบัติ มาเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมาโดยเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะให้ ซึ่งผู้ป่วยมีอาการปวดท้องคล้ายปวดปัสสาวะมาก จึงได้ส่งรักษาต่อไปที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ตามความต้องการของญาติ ก่อนจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่มีแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งขณะที่ไปถึงผู้ป่วยยังคงรู้สึกตัวดี ความดันโลหิตปกติ มีไข้ต่ำๆ เมื่อได้พบแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งได้ใส่สายสวนล้างกระเพาะปัสสาวะ ขณะนั้นผู้ป่วยเกิดภาวะเกร็ง หายใจลำบาก เกิดภาวะช็อก ได้นำตัวเข้ารักษาในห้องไอซียู ซึ่งหลังจากนั้นทีมงานโรงพยาบาลบางละมุง ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วย พร้อมพูดคุยกับคณะแพทย์และญาติ และมอบเงินช่วยญาติเบื้องต้น 10,000 บาท พร้อมเดินทางไปที่มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการที่นายสมบัติทำงานอยู่ เพื่อทำความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะชดเชยด้านมนุษยธรรม ตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545
อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเช่นกรณีดังกล่าวสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีเตรียมจัดประชุมเพิ่มศักยภาพการส่งต่อผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น และจัดประชุมวิชาการ เรื่อง "เทคนิคการดูแลผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะหรือคาสายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน" ให้แก่บุคลากรสาธารณสุขที่ต้องดูแลผู้ป่วยลักษณะนี้ ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้
ขณะเดียวกันได้กำชับให้แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ ให้ความสำคัญกับการพูดคุยแนวทางการรักษาพยาบาลกับผู้ป่วยและญาติให้เข้าใจตรงกันทุกครั้ง
ทั้งนี้ นายแพทย์ประสิทธิ์ จิตติวัฒนพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางละมุง รายงานว่า โรงพยาบาลบางละมุงได้รับตัวนายสมบัติ มาเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมาโดยเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะให้ ซึ่งผู้ป่วยมีอาการปวดท้องคล้ายปวดปัสสาวะมาก จึงได้ส่งรักษาต่อไปที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ตามความต้องการของญาติ ก่อนจะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่มีแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งขณะที่ไปถึงผู้ป่วยยังคงรู้สึกตัวดี ความดันโลหิตปกติ มีไข้ต่ำๆ เมื่อได้พบแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งได้ใส่สายสวนล้างกระเพาะปัสสาวะ ขณะนั้นผู้ป่วยเกิดภาวะเกร็ง หายใจลำบาก เกิดภาวะช็อก ได้นำตัวเข้ารักษาในห้องไอซียู ซึ่งหลังจากนั้นทีมงานโรงพยาบาลบางละมุง ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วย พร้อมพูดคุยกับคณะแพทย์และญาติ และมอบเงินช่วยญาติเบื้องต้น 10,000 บาท พร้อมเดินทางไปที่มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการที่นายสมบัติทำงานอยู่ เพื่อทำความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะชดเชยด้านมนุษยธรรม ตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545
อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเช่นกรณีดังกล่าวสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีเตรียมจัดประชุมเพิ่มศักยภาพการส่งต่อผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น และจัดประชุมวิชาการ เรื่อง "เทคนิคการดูแลผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะหรือคาสายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน" ให้แก่บุคลากรสาธารณสุขที่ต้องดูแลผู้ป่วยลักษณะนี้ ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้