“วิทยา” สั่งผู้ตรวจราชการสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้ป่วยท่อนล่างพิการ กลายเป็นเจ้าชายนิทรา หลังเปลี่ยนท่อปัสสาวะที่ รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเต็มที่ และกำชับโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพิ่มการสื่อสารกับผู้ป่วยและญาติให้เข้าใจมาตรการและผลการรักษา
จากกรณีที่น.ส.สำราญ เอี่ยมกลั่น อยู่บ้านเลขที่ 22/1 หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ได้ร้องเรียนสื่อมวลชนว่าน้องชายคือนายสมบัติ เอี่ยมกลั่น อายุ 28 ปี ซึ่งพิการท่อนล่าง ต้องเปลี่ยนท่อปัสสาวะทุก 15 วัน โดยเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2552 รพ.บางละมุงเปลี่ยนท่อปัสสาวะผิดพลาด ทำให้น้องชายกลายเป็นเจ้าชายนิทรา จึงร้องต่อแพทยสภา และคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายกับโรงพยาบาลนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสาเหตุที่ทำให้นายสมบัติ เอี่ยมกลั่น เป็นเจ้าชายนิทรา เป็นการด่วน เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และให้เภสัชกรมานิตย์ อรุณากูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด และรายงานผลให้ทราบ ขณะเดียวกันได้กำชับให้แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ ให้ความสำคัญกับการพูดคุย ชี้แจงแนวทางการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยและญาติให้เข้าใจทุกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ประชาชนมีความคาดหวังต่อบริการการแพทย์และสาธารณสุขสูง หากทุกฝ่ายสื่อสารกันด้วยเหตุผลอย่างดี มีความเข้าใจตรงกัน ก็จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะแพทย์มีความตั้งใจที่จะให้การรักษาผู้ป่วยทุกรายให้หายเร็วที่สุด
ทางด้านนายแพทย์มารุต จิรเศรษฐศิริ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายแพทย์ประสิทธิ์ จิตติวัฒนพงศ์ ผู้อำนวยการ รพ.บางละมุง ว่า รพ.บางละมุงได้รับตัว นายสมบัติ เอี่ยมกลั่น เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2552 โดยเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะให้ หลังจากนั้นมีเลือดออกจากสายสวน จึงเปลี่ยนสายใหม่ ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องคล้ายปวดปัสสาวะมาก จึงส่งรักษาต่อที่ รพ.ชลบุรี แต่ญาติต้องการนำผู้ป่วยไปรักษาที่ รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา รพ.ชลบุรีจึงส่งตัวให้ ซึ่ง รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวีฯ ได้ถอดสายสวนปัสสาวะเดิมออกแล้วใส่เส้นใหม่ให้สามารถระบายปัสสาวะออกมาได้ ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้น และแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ เพราะเกรงว่าจะเกิดภาวะเลือดอุดตันในสายสวนปัสสาวะ เมื่อไปถึง รพ.จุฬาลงกรณ์ ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ความดันโลหิตปกติ มีไข้ต่ำๆ ได้พบแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งได้ใส่สายสวนล้างกระเพาะปัสสาวะ ขณะนั้นผู้ป่วยเกิดภาวะเกร็ง หายใจลำบาก เกิดภาวะช็อก ได้ทำการปั๊มช่วยหายใจ และรักษาตัวในห้องไอซียู
หลังจากนั้นในวันที่ 5 และ 6 มกราคม 2552 ทีมงาน รพ.บางละมุงได้ไปเยี่ยมผู้ป่วย พร้อมพูดคุยกับคณะแพทย์และญาติ และมอบเงินช่วยญาติเบื้องต้น 10,000 บาท ขณะเดียวกันได้เดินทางไปมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการที่นายสมบัติทำงานอยู่ เพื่อทำความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะชดเชยด้านมนุษยธรรม ตามมาตรา 41 ของพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไม่เกิน 200,000 บาท ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี จะจัดประชุมเพิ่มศักยภาพการส่งต่อผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น และจัดประชุมวิชาการ เรื่อง “เทคนิคการดูแลผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะหรือคาสายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน ให้กับทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุขที่จะต้องดูแลผู้ป่วยลักษณะนี้ โดยมอบให้ รพ.ชลบุรีจัดประชุมในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 นี้ และให้ รพ.บางละมุงจัดประชุมให้ความรู้กลุ่มผู้พิการด้วย