นายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) กล่าวภายหลังเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสรับตำแหน่ง และเสนอแนะแนวทางด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้คำมั่นและยืนยันว่า จะใช้ความอดทนต่อสถานการณ์ต่างๆ เพื่อไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา รวมถึงเร่งรัดสะสางคดีที่คั่งค้าง ทั้งคดีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ และการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความ
นายกรัฐมนตรียังหยิบยกกรณีรายงานขององค์การนิรโทษกรรมสากล ที่ระบุว่า ไทยมีการทรมานผู้ต้องหาและนักโทษในคดีภาคใต้ โดยระบุว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่า ไม่มีการกระทำดังกล่าว และจะกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างจริงจัง ซึ่งนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของทนายสมชายที่หายตัวไป ก็เรียกร้องให้สอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งการทรมานและวิสามัญผู้ต้องหา คดีความมั่นคงในภาคใต้ และเร่งฟื้นความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า จะเข้าถึงความยุติธรรมอย่างแท้จริง
ส่วนนายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาเพื่อพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรียังชี้แจงกรณีผู้อพยพชาวโรฮิงยาด้วย โดยยืนยันว่า ทั้งทหารและรัฐบาลไม่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชน และจะปฏิบัติเท่าเทียมตามหลักมนุษยชนที่พึงได้รับ
นายกรัฐมนตรียังหยิบยกกรณีรายงานขององค์การนิรโทษกรรมสากล ที่ระบุว่า ไทยมีการทรมานผู้ต้องหาและนักโทษในคดีภาคใต้ โดยระบุว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่า ไม่มีการกระทำดังกล่าว และจะกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างจริงจัง ซึ่งนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของทนายสมชายที่หายตัวไป ก็เรียกร้องให้สอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งการทรมานและวิสามัญผู้ต้องหา คดีความมั่นคงในภาคใต้ และเร่งฟื้นความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า จะเข้าถึงความยุติธรรมอย่างแท้จริง
ส่วนนายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาเพื่อพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรียังชี้แจงกรณีผู้อพยพชาวโรฮิงยาด้วย โดยยืนยันว่า ทั้งทหารและรัฐบาลไม่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชน และจะปฏิบัติเท่าเทียมตามหลักมนุษยชนที่พึงได้รับ
