ผู้จัดการออนไลน์ - สำนักงานอัยการจังหวัดสุราษฎร์ฯ รับไม่ได้กับ “รัฐบาลหอกหัก” เดินหน้าอารยะขัดขืน ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับฟังคำสั่งของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อีกต่อไป ชี้หมดความชอบธรรม ดำเนินการขัดกับรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 3 และมาตรา 4 ชัดเจน องค์กรผู้หญิงเตรียมเขียนจดหมายถึงเมียสมัคร
วันนี้ (1 ก.ย.) สำนักงานอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายโกวิท ศรีไพโรจน์ อัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกแถลงการณ์ประกาศไม่ยอมรับฟังคำสั่งของรัฐบาลที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี โดยรายละเอียดในแถลงการณ์ระบุว่า การใช้กำลังประทุษร้าย สลายการชุมนุมของประชาชนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากนั้น เป็นการกระทำละเมิดต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ขัดต่อหลักนิติธรรม หลักนิติรัฐ และยังมีทีท่าคุกคามการชุมนุมของประชาชนต่อไป
บุคลากรของสำนักงานอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีความเห็นว่า เมื่อการดำเนินการของรัฐบาล ขัดต่อหลักการพื้นฐานแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 3 วรรคสอง ที่ว่า การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม และมาตรา 4 ที่ว่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง ดังนั้นรัฐบาลนายสมัคร จึงหมดความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินอีกต่อไป
“ในฐานะความเป็นข้าราชการซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา หากยังต้องรับฟังคำสั่งรัฐบาลนี้อีกต่อไป ย่อมสุ่มเสี่ยงที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งอันมิชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อหน้าที่ของข้าราชการ หน้าที่ของพนักงานอัยการซึ่งต้องใช้อำนาจหน้าที่เพื่อปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ สำนักงานอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงขอแถลงการณ์ประกาศไม่ยอมรับฟังคำสั่งของรัฐบาล ซึ่งมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี อีกต่อไป” แถลงการณ์ระบุ
องค์กรผู้หญิงวอนเมียสมัคร สะกิดสามี “ลาออก”
ขณะเดียวกัน ที่ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา นายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน ได้แถลงข้อเสนอทางการเมืองเพื่อร่วมแสวงหาทางออกให้กับสังคมไทยว่า องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง เราได้ดำเนินการโดยอิสระ และติดตามสถานการณ์ด้วยกความเป็นห่วง
ด้าน นางทิชา ณ นคร ตัวแทนองค์กรผู้หญิงกับการปฏิรูปการเมือง กล่าวว่า ส.ส.และส.ว.ผู้หญิงควรหาเวลาไปเยี่ยมผู้หญิงในม็อบพันธมิตรฯ และม็อบ นปก. เพื่อให้มีข้อเสนอเป็นแนวทางแก้ไขต่อรัฐสภา ไม่ใช่นั่งเป็นเพียงไม้ประดับ ทั้งนี้ในส่วนขององค์กรผู้หญิงจะเขียนจดหมายถึง คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภริยานายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาอย่าให้ตระกูลสุนทรเวชต้องถูกบันทึกในประวัติศาสตร์แง่ลบ
ด้าน นายสุนัย ผาสุก ผู้ประสานงานองค์กรฮิวแมนไรต์วอตช์ ประเทศไทย กล่าวว่า พันธมิตรฯได้แปรสภาพจากการชุมนุมด้วยสันติวิธีมาเป็นการชุมนุมที่มีความรุนแรงขาดขันติธรรม แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลให้รัฐบาลใช้เป็นข้ออ้างนำกำลังเข้าปราบปรามด้วยความรุนแรง ในส่วนการอภิปรายสองสภาเมื่อวานที่ผ่านมาทำให้บ้านเมืองแตกแยกมากขึ้น โดยมีตัวแสดงที่สาม คือ นปก.เพิ่มเข้ามาจัดการชุมนุมสนับสนุนรัฐบาลและขยายตัวไปตามจังวหัดต่างๆ ที่เป็นฐานเสียงรัฐบาล โดย นปก.มีประวัติใช้ความรุนแรง โดยไม่ถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดี เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สถานการณ์เปราะบางขึ้นไปอีก ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้ประเทศไทยจะก้าวสู่วิกฤตขั้นร้ายแรง