นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) กล่าวว่า ที่ประชุมกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) มีมติปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (ค่าเอฟที) งวดเดือนมกราคม - เมษายน 2552 เป็น 92.55 สตางค์ต่อหน่วย หลังบวกค่าไฟฐาน 2.25 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้างวดใหม่เพิ่มขึ้น 3.17 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขื้นร้อยละ 4.91 เนื่องจากค่าเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าและค่าซื้อไฟฟ้าที่ใช้คำนวณค่าเอฟทีงวดนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติสูงขึ้น 22 บาทต่อล้านบีทียู ทำให้ราคาก๊าซเพิ่มเป็น 251.24 บาทต่อล้านบีทียู ส่วนราคาน้ำมันดีเซลสูงขึ้น 0.56 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาดีเซลเพิ่มเป็น 15.64 บาทต่อลิตร ซึ่งการคำนวณค่าเอฟทีในงวดนี้เรกกูเลเตอร์ได้ปรับสูตรการคำนวณค่าไฟฟ้าใหม่ ด้วยการคำนวณจากค่าเชื้อเพลิงในปัจจุบัน ระหว่างเดือนมกราคม - เมษายน 2552 แทนการคำนวณค่าไฟย้อนหลัง เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงเริ่มปรับตัวลดลงและไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ การปรับค่าไฟงวดนี้ส่งผลให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 20,967 ล้านบาท เนื่องจากต้องรับภาระค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)ในงวดหน้า ระหว่างเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2552 มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากคาดการณ์ว่าราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าจะปรับตัวลดลง โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม การปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)ในงวดหน้า ระหว่างเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2552 มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากคาดการณ์ว่าราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าจะปรับตัวลดลง โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ