นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า ได้เตรียมงบประมาณกลางไว้ประมาณ 300,00 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบกลางปี 100,000 ล้านบาทตามที่ตั้งเดิม เงินที่ค้างอยู่ในธนาคารของรัฐอีก 100,000 ล้านบาท และเงินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 100,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าเหตุใดถึงนำงบประมาณที่ค้างอยู่ที่ธนาคารกรุงไทยออกมาใช้ดำเนินการไม่ได้ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการเมกะโปรเจกต์ เพราะได้อธิบายให้เข้าใจว่าโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานต้องเดินต่อ อาทิ รถไฟรางคู่แหล่งน้ำ รถขนส่งมวลชลกรุงเทพ แต่เน้นโครงการขนาดกลาง ขนาดเล็กมากกว่าโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งควรเข้าใจให้ตรงกันว่า การคิดที่จะใช้โครงการขนาดใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ทันการ เพราะโครงการเหล่านี้ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และต้องใช้เวลาพอสมควร
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับทีมเศรษฐกิจที่ถูกปรามาสว่าจะไม่สามารถทำงานได้นั้น คงต้องลบคำปรามาสให้ได้ เพราะในเดือนมกราคม ประกาศใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดหรือไม่ ส่วนเงินงบประมาณจะเริ่มลงได้ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับทีมเศรษฐกิจที่ถูกปรามาสว่าจะไม่สามารถทำงานได้นั้น คงต้องลบคำปรามาสให้ได้ เพราะในเดือนมกราคม ประกาศใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดหรือไม่ ส่วนเงินงบประมาณจะเริ่มลงได้ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน