รศ.เอกชัย นิตยาเกษตรวัฒน์ คณบดีคณะบริหารธุรกิจ สถาบันบันฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาทางการเมือง และเศรษฐกิจขณะนี้ได้สำเร็จ จะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ปีหน้าติดลบร้อยละ 1.4 ทำให้มีคนตกงาน 1.5 ล้านคน ส่งออกติดลบร้อยละ 5 ขาดดุลการค้าอีก 4,000 ล้านบาท เงินบัญชีเดินสะพัด ติดลบ 3,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบเงินหมุนเวียน และสภาพคล่อง แต่หากรัฐบาลแก้ไขได้ คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจโตได้ร้อยละ 1.4 ดังนั้นรัฐบาลควรเพิ่มงบขาดดุล จาก 3.5 แสนล้านบาท เป็น 5-6 แสนล้านบาท และควรลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกร้อยละ 1 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งหากทำได้จะทำให้เอสเอ็มอีอยู่รอดได้
นายนิพนธ์ สุรพงษ์รักเจริญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เป็นห่วงอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่ต้องปรับตัว และดูแลสภาพคล่องกระแสเงินสดอย่างระมัดระวัง ซึ่งอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ นอกจากยานยนต์ คือ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากปัจจุบันคำสั่งซื้อลดลงกว่าร้อยละ 70 ซึ่งรัฐบาลต้องผลักดันให้มีระบบการวิจัยอุตสาหกรรมภายในประเทศ ส่วนระยะสั้น ผู้ประกอบการต้องประหยัดค่าใช้จ่าย เพิ่มกำลังการผลิต
นายนิพนธ์ สุรพงษ์รักเจริญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เป็นห่วงอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่ต้องปรับตัว และดูแลสภาพคล่องกระแสเงินสดอย่างระมัดระวัง ซึ่งอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ นอกจากยานยนต์ คือ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากปัจจุบันคำสั่งซื้อลดลงกว่าร้อยละ 70 ซึ่งรัฐบาลต้องผลักดันให้มีระบบการวิจัยอุตสาหกรรมภายในประเทศ ส่วนระยะสั้น ผู้ประกอบการต้องประหยัดค่าใช้จ่าย เพิ่มกำลังการผลิต