นายอุดมเดช รัตนเสถียร รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง การจัดระเบียบหอพัก เพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้กับเจ้าของสถานที่ที่มีลักษณะเข้าข่ายหอพัก ตาม พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ.2507 และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประกอบกิจการหอพัก พ.ศ.2549 ที่กำหนดให้สถานที่ซึ่งมีผู้ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ พักอาศัยอยู่ระหว่างการศึกษาในระดับไม่สูงกว่าปริญญาตรี ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จะต้องยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งเป็นหอพัก และต้องแยกเป็นหอพักชาย หอพักหญิง ออกเป็นสัดเป็นส่วน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เยาวชนที่พักอาศัยในหอพักดังกล่าว จากปัญหาสังคมต่างๆ เช่น ปัญหาการมั่วสุม ปัญหายาเสพติด ปัญหาการพนัน เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการสำรวจล่าสุด ขณะนี้มีสถานประกอบการที่มีลักษณะเข้าข่ายหอพักกว่า 30,000 แห่ง แต่มายื่นจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเพียง 12,739 แห่ง เท่านั้น ดังนั้น เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้ผู้ประกอบการทั้งที่อยู่ในรูปแบบของอพาร์ตเมนต์ แมนชั่น ห้องเช่า เกสต์เฮ้าส์ หรืออื่นๆ ที่รับผู้มีอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ และอยู่ระหว่างการศึกษาในระดับไม่สูงกว่าปริญญาตรี เข้าพักอาศัยตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยเสียค่าตอบแทน ให้มาจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากตรวจพบว่าสถานที่ใดมีลักษณะเป็นหอพักตามกฎหมายแต่ยังไม่ได้จดทะเบียน พม.จะร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และจะอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ.2507 ส่งพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมกิจการแทนต่อไป
ทั้งนี้ จากการสำรวจล่าสุด ขณะนี้มีสถานประกอบการที่มีลักษณะเข้าข่ายหอพักกว่า 30,000 แห่ง แต่มายื่นจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเพียง 12,739 แห่ง เท่านั้น ดังนั้น เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้ผู้ประกอบการทั้งที่อยู่ในรูปแบบของอพาร์ตเมนต์ แมนชั่น ห้องเช่า เกสต์เฮ้าส์ หรืออื่นๆ ที่รับผู้มีอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ และอยู่ระหว่างการศึกษาในระดับไม่สูงกว่าปริญญาตรี เข้าพักอาศัยตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยเสียค่าตอบแทน ให้มาจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากตรวจพบว่าสถานที่ใดมีลักษณะเป็นหอพักตามกฎหมายแต่ยังไม่ได้จดทะเบียน พม.จะร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และจะอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ.2507 ส่งพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมกิจการแทนต่อไป
