กคช. สรุปแผนแม่บทฟื้นฟูแฟลตดินแดงใหม่ งบพัฒนา 3 หมื่นล้านบาท ใช้สร้างตึกใหม่ 12,000 ยูนิต 4 เฟส มูลค่า 2 หมื่นล้าน คาดเริ่มปี 2553 - 2561 เผยรัฐบาลไฟเขียวให้เดินหน้าได้ ให้ทำความเข้าใจเรื่องแผนฟื้นฟูกับคนในชุมชน ระบุยิ่งสร้างช้าต้นทุนก่อสร้างยิ่งแพงขึ้น ด้านกระทรวงพม.ชี้ต้องให้สิทธิกับผู้อยู่อาศัยเดิมซื้อในราคาเพียง 50% ของต้นทุนค่าก่อสร้าง
สืบเนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายอุดมเดช รัตนเสถียร มีแนวคิดที่จะให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เร่งสะสางปัญหาการดำเนินต่างๆของกคช.ให้สำเร็จลุล่วง ทั้งในเรื่องของหนี้สิน โครงการบ้านเอื้ออาทร และแผนฟื้นฟูแฟลตดินแดง โดยโครงการฟื้นฟูแฟลตดินแดงนั้นให้กคช.เสนอแผนแม่บท (มาสเตอร์แพลน) ของโครงการทั้งหมดให้แก่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในคราวเดียว ส่วนการดำเนินงานจะแบ่งพัฒนาเป็นเฟสๆ เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินงานไม่ต้องนำแผนเข้าสู่ครม.ที่ละเฟส
ด้านนายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกคช. ได้สรุปเม็ดเงินลงทุนตามแผนฟื้นฟูแฟลตดินแดงโครงการ 1 และ 2 รวมประมาณ 28,000-30,0000 ล้านบาท จากเดิม 2 หมื่นกว่าล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้างสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ รวม 12,000 ยูนิต มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ทยอยสร้าง 4 เฟสภายในระยะเวลา 8 ปี ที่เหลือเป็นเงินชดเชย ค่าบริหารจัดการ ค่าดำเนินการในส่วนผลกระทบกับชุมชน สำหรับค่าก่อสร้างพัฒนาโครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาทนั้นได้มีการบวกเพิ่มต้นทุนค่าก่อสร้างที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มในช่วงการก่อสร้างไว้ด้วย
ทั้งนี้ตามขั้นตอนนำเสนอแผนฟื้นฟู ทาง กคช. จะนำต้องนำแผนเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ กคช. เพื่อขอความเห็นชอบ ภายใน 3 เดือนข้างหน้านับจากนี้ไป จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป คาดว่า แผนน่าจะได้รับการอนุมัติได้ในช่วงต้นปีหน้า
ส่วนกระบวนการฟื้นฟู และพัฒนาโครงการใหม่ สร้างอาคารในเฟสแรก จะเริ่มในปี พ.ศ. 2553 โดยการก่อสร้างอาคารแต่ละเฟสจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ทยอยสร้างให้ครบทั้ง 4 เฟสภายในปีพ.ศ. 2561 อย่างไรก็ตาม หากแผนได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและใช้เวลาการปรับแผนแล้ว เชื่อว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้ในปี 2553 โดยต้องเร่งดำเนินการก่อสร้าง เพราะยิ่งช้า ต้นทุนค่าก่อสร้างจะยิ่งปรับเพิ่ม เห็นได้จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่ต้นทุนค่าก่อสร้างได้ปรับเพิ่มมาแล้ว 10 %
สำหรับอาคารที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ในโครงการเคหะดินแดงนั้น มีรวม 62 อาคาร ผู้อยู่อาศัย 6,000 คน แบ่งเป็น โครงการเคหะดินแดง 1 รวม 32 อาคาร ผู้อยู่อาศัย 2,000 คน และโครงการเคหะดินแดง 2 อีก 30 อาคาร มีผู้อยู่อาศัย 4,000 คน
ทั้งนี้กคช.ได้เข้าไปสำรวจความเห็นเรื่องแผนฟื้นฟูกับโครงการดินแดง 1 แล้วผลสำรวจพบว่า แสดงความประสงค์อยู่ที่เดิม 25%, ขอชดเชยเป็นบ้านเอื้ออาทรมูลค่า 3.9 แสนต่อยูนิต 5 % , ขอรับเงินชดเชยมูลค่า 2.5 แสนบาทต่อยูนิต 8% ,และอยู่ระหว่างการตัดสินใจ 13% , และ 40% แสดงความประสงค์จะไปอยู่โครงการใหม่ ,ซึ่งกรณีผู้ที่ต้องการไปอยู่โครงการใหม่นั้น จะได้รับสิทธิพิเศษราคาถูกว่าท้องตลาด 50%
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้อยู่อาศัย ในโครงการเคหะดินแดง 2 นั้นทาง กคช. จะเร่งลงไปสำรวจความเห็นของในชุมขนต่อไป ในส่วนนโยบายของรัฐบาลเรื่องการฟื้นฟูเคหะดินแดงนั้น ทางนายอุดมเดช รัตนเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หรือพม. ได้มีนโยบายเรื่องการเร่งทำความเข้าใจกับคนในชุมชน หากจะพัฒนาโครงการใหม่ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ และ ผู้อยู่อาศัยเดิมจะได้รับสิทธิพิเศษเช่าซื้อในราคา ครึ่งหนึ่งของต้นทุนก่อสร้าง
สืบเนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายอุดมเดช รัตนเสถียร มีแนวคิดที่จะให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เร่งสะสางปัญหาการดำเนินต่างๆของกคช.ให้สำเร็จลุล่วง ทั้งในเรื่องของหนี้สิน โครงการบ้านเอื้ออาทร และแผนฟื้นฟูแฟลตดินแดง โดยโครงการฟื้นฟูแฟลตดินแดงนั้นให้กคช.เสนอแผนแม่บท (มาสเตอร์แพลน) ของโครงการทั้งหมดให้แก่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในคราวเดียว ส่วนการดำเนินงานจะแบ่งพัฒนาเป็นเฟสๆ เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินงานไม่ต้องนำแผนเข้าสู่ครม.ที่ละเฟส
ด้านนายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกคช. ได้สรุปเม็ดเงินลงทุนตามแผนฟื้นฟูแฟลตดินแดงโครงการ 1 และ 2 รวมประมาณ 28,000-30,0000 ล้านบาท จากเดิม 2 หมื่นกว่าล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้างสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ รวม 12,000 ยูนิต มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท ทยอยสร้าง 4 เฟสภายในระยะเวลา 8 ปี ที่เหลือเป็นเงินชดเชย ค่าบริหารจัดการ ค่าดำเนินการในส่วนผลกระทบกับชุมชน สำหรับค่าก่อสร้างพัฒนาโครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาทนั้นได้มีการบวกเพิ่มต้นทุนค่าก่อสร้างที่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มในช่วงการก่อสร้างไว้ด้วย
ทั้งนี้ตามขั้นตอนนำเสนอแผนฟื้นฟู ทาง กคช. จะนำต้องนำแผนเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ กคช. เพื่อขอความเห็นชอบ ภายใน 3 เดือนข้างหน้านับจากนี้ไป จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป คาดว่า แผนน่าจะได้รับการอนุมัติได้ในช่วงต้นปีหน้า
ส่วนกระบวนการฟื้นฟู และพัฒนาโครงการใหม่ สร้างอาคารในเฟสแรก จะเริ่มในปี พ.ศ. 2553 โดยการก่อสร้างอาคารแต่ละเฟสจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ทยอยสร้างให้ครบทั้ง 4 เฟสภายในปีพ.ศ. 2561 อย่างไรก็ตาม หากแผนได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและใช้เวลาการปรับแผนแล้ว เชื่อว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้ในปี 2553 โดยต้องเร่งดำเนินการก่อสร้าง เพราะยิ่งช้า ต้นทุนค่าก่อสร้างจะยิ่งปรับเพิ่ม เห็นได้จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่ต้นทุนค่าก่อสร้างได้ปรับเพิ่มมาแล้ว 10 %
สำหรับอาคารที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ในโครงการเคหะดินแดงนั้น มีรวม 62 อาคาร ผู้อยู่อาศัย 6,000 คน แบ่งเป็น โครงการเคหะดินแดง 1 รวม 32 อาคาร ผู้อยู่อาศัย 2,000 คน และโครงการเคหะดินแดง 2 อีก 30 อาคาร มีผู้อยู่อาศัย 4,000 คน
ทั้งนี้กคช.ได้เข้าไปสำรวจความเห็นเรื่องแผนฟื้นฟูกับโครงการดินแดง 1 แล้วผลสำรวจพบว่า แสดงความประสงค์อยู่ที่เดิม 25%, ขอชดเชยเป็นบ้านเอื้ออาทรมูลค่า 3.9 แสนต่อยูนิต 5 % , ขอรับเงินชดเชยมูลค่า 2.5 แสนบาทต่อยูนิต 8% ,และอยู่ระหว่างการตัดสินใจ 13% , และ 40% แสดงความประสงค์จะไปอยู่โครงการใหม่ ,ซึ่งกรณีผู้ที่ต้องการไปอยู่โครงการใหม่นั้น จะได้รับสิทธิพิเศษราคาถูกว่าท้องตลาด 50%
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้อยู่อาศัย ในโครงการเคหะดินแดง 2 นั้นทาง กคช. จะเร่งลงไปสำรวจความเห็นของในชุมขนต่อไป ในส่วนนโยบายของรัฐบาลเรื่องการฟื้นฟูเคหะดินแดงนั้น ทางนายอุดมเดช รัตนเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หรือพม. ได้มีนโยบายเรื่องการเร่งทำความเข้าใจกับคนในชุมชน หากจะพัฒนาโครงการใหม่ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ และ ผู้อยู่อาศัยเดิมจะได้รับสิทธิพิเศษเช่าซื้อในราคา ครึ่งหนึ่งของต้นทุนก่อสร้าง
