จีน-สหรัฐอเมริกาปิดการประชุมหารือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ตกลงจับมือกันคลี่คลายปัญหาวิกฤตสินเชื่อโลก พร้อมทั้งประกาศคำมั่นว่าทั้งสองชาติจะช่วยอัดฉีดสินเชื่อส่งเสริมการค้า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา
"เราตกลงช่วยกันเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจโลก" เฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังแห่งสหรัฐฯ กล่าววันศุกร์(5 ) ระหว่างปิดการประชุมหารือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจจีน และสหรัฐฯ ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง
โดยการประชุมหารือฯครั้งนี้ นับเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้ริเริ่มการประชุมดังกล่าวคือ พอลสัน เข้าร่วมการประชุมนี้ เนื่องจากการสิ้นวาระของคณะรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งจะออกจากทำเนียบขาวในเดือนมกราคมปีหน้า จากนั้น จีนจะต้องเผชิญหน้ากับคณะรัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งส่งสัญญาณกดดันการปรับค่าเงินหยวนมาแล้ว โดยชี้ว่าจีนเป็นชาติแทรกแซงค่าเงิน ด้านรองนายกรัฐมนตรีจีน หวัง ฉีซัน ขุนพลบนเวทีเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน ได้กล่าวคาดหวังว่าสองชาติจะ "มีการเจรจาแบบตรงไปตรงมา" ต่อไป
สำหรับผลพวงที่เป็นชิ้นเป็นอันที่สุดจากการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ ข้อตกลงอัดฉีดสินเชื่อแก่ภาคการค้าโลก 20,000 ล้านดอลลาร์ โดยธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกของสองประเทศจะเป็นแหล่งปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ให้แก่กลุ่มผู้นำเข้าที่น่าเชื่อถือในชาติกำลังพัฒนา เพื่ออัดฉีดการส่งออกจากสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจะเป็นอานิสงแก่เศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ เนื้อหาสาระหลักอีกประการที่ทั้งสองได้พูดคุยกันได้แก่ การเปิดเสรีการค้าเพื่อช่วยเยียวยาความอ่อนเปลี้ยในการเติบโตเศรษฐกิจ และความร่วมมือต่อต้านลัทธิกีดกันการค้า
"เราตกลงช่วยกันเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจโลก" เฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลังแห่งสหรัฐฯ กล่าววันศุกร์(5 ) ระหว่างปิดการประชุมหารือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจจีน และสหรัฐฯ ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง
โดยการประชุมหารือฯครั้งนี้ นับเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้ริเริ่มการประชุมดังกล่าวคือ พอลสัน เข้าร่วมการประชุมนี้ เนื่องจากการสิ้นวาระของคณะรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งจะออกจากทำเนียบขาวในเดือนมกราคมปีหน้า จากนั้น จีนจะต้องเผชิญหน้ากับคณะรัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งส่งสัญญาณกดดันการปรับค่าเงินหยวนมาแล้ว โดยชี้ว่าจีนเป็นชาติแทรกแซงค่าเงิน ด้านรองนายกรัฐมนตรีจีน หวัง ฉีซัน ขุนพลบนเวทีเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน ได้กล่าวคาดหวังว่าสองชาติจะ "มีการเจรจาแบบตรงไปตรงมา" ต่อไป
สำหรับผลพวงที่เป็นชิ้นเป็นอันที่สุดจากการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ ข้อตกลงอัดฉีดสินเชื่อแก่ภาคการค้าโลก 20,000 ล้านดอลลาร์ โดยธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกของสองประเทศจะเป็นแหล่งปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ให้แก่กลุ่มผู้นำเข้าที่น่าเชื่อถือในชาติกำลังพัฒนา เพื่ออัดฉีดการส่งออกจากสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจะเป็นอานิสงแก่เศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ เนื้อหาสาระหลักอีกประการที่ทั้งสองได้พูดคุยกันได้แก่ การเปิดเสรีการค้าเพื่อช่วยเยียวยาความอ่อนเปลี้ยในการเติบโตเศรษฐกิจ และความร่วมมือต่อต้านลัทธิกีดกันการค้า