บรรดากองทุนเฮดฟันด์กำลังพยายามสะกัดกั้นกระแสนักลงทุนถอนเงินสดออกไปจากกองทุน แต่เงื่อนไขที่พวกเขากำหนดขึ้นอาจจะส่งผลให้มีการลดค่าบริหารกองทุนที่คิดจากนักลงทุนลงจากเดิมเป็นอย่างมาก อีกทั้งเป็นไปในระยะยาวด้วย
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา มีกองทุนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆที่ได้ออกมามาตรการเพื่อหยุดยั้งการไหลออกของเม็ดเงิน ซึ่งเกิดจากการที่นักลงทุนผู้กำลังต้องการเงินสด พากันหันมาไถ่ถอนการลงทุนของตนเองออกไป
มาตรการที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ออกมา ก็ได้แก่ ห้ามไถ่ถอนเป็นการชั่วคราว, สร้างเงื่อนไขเพื่อจำกัดให้นักลงทุนสามารถไถ่ถอนภายในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น, รวมทั้งนำเอาช่วง "ล็อคอัพ" มาใช้ ซึ่งหมายถึงนักลงทุนจะต้องเอาเงินไว้ในกองทุนให้ครบช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนจึงจะไถ่ถอนได้
แต่ในอีกด้านหนึ่ง กองทุนก็ต้องให้สิ่งตอบแทนแก่นักลงทุนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงื่อนไขที่นักลงทุนมักจะขอกันมากก็คือ ลดค่าบริหารจัดการกองทุนลงมา ทั้งนี้เป็นที่น่าสงสัยด้วยว่า แม้เมื่อสถานการณ์การเงินกลับสู่ภาวะปกติแล้ว กองทุนจะสามารถเรียกเก็บค่าบริการเหล่านี้เพิ่มขึ้นใหม่ได้หรือไม่ เพราะนักลงทุนน่าจะไม่ยินยอม
ยิ่งช่วงปลายปีใกล้เข้ามา พวกเฮดจ์ฟันด์ก็จะต้องรับมือกับการไถ่ถอนที่เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น ข้อมูลเร็ว ๆนี้จากเอชเอฟอาร์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในชิคาโกแสดงให้เห็นว่ายอดเงินไหลออกสุทธิในเดือนตุลาคมนั้นสูงเกินกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์แล้ว อันเป็นจำนวนที่สูงกว่าเงินไหลออกสุทธิในไตรมาสสามทั้งไตรมาสที่เท่ากับ 31,000 ล้านดอลลาร์ และตรงกันข้ามกับตลอดทั้งปี 2007 ที่พวกเฮดจ์ฟันด์อยู่ในฐานะมีเงินไหลเข้าสุทธิ 194,500 ล้านดอลลาร์
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา มีกองทุนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆที่ได้ออกมามาตรการเพื่อหยุดยั้งการไหลออกของเม็ดเงิน ซึ่งเกิดจากการที่นักลงทุนผู้กำลังต้องการเงินสด พากันหันมาไถ่ถอนการลงทุนของตนเองออกไป
มาตรการที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ออกมา ก็ได้แก่ ห้ามไถ่ถอนเป็นการชั่วคราว, สร้างเงื่อนไขเพื่อจำกัดให้นักลงทุนสามารถไถ่ถอนภายในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น, รวมทั้งนำเอาช่วง "ล็อคอัพ" มาใช้ ซึ่งหมายถึงนักลงทุนจะต้องเอาเงินไว้ในกองทุนให้ครบช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนจึงจะไถ่ถอนได้
แต่ในอีกด้านหนึ่ง กองทุนก็ต้องให้สิ่งตอบแทนแก่นักลงทุนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงื่อนไขที่นักลงทุนมักจะขอกันมากก็คือ ลดค่าบริหารจัดการกองทุนลงมา ทั้งนี้เป็นที่น่าสงสัยด้วยว่า แม้เมื่อสถานการณ์การเงินกลับสู่ภาวะปกติแล้ว กองทุนจะสามารถเรียกเก็บค่าบริการเหล่านี้เพิ่มขึ้นใหม่ได้หรือไม่ เพราะนักลงทุนน่าจะไม่ยินยอม
ยิ่งช่วงปลายปีใกล้เข้ามา พวกเฮดจ์ฟันด์ก็จะต้องรับมือกับการไถ่ถอนที่เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น ข้อมูลเร็ว ๆนี้จากเอชเอฟอาร์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในชิคาโกแสดงให้เห็นว่ายอดเงินไหลออกสุทธิในเดือนตุลาคมนั้นสูงเกินกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์แล้ว อันเป็นจำนวนที่สูงกว่าเงินไหลออกสุทธิในไตรมาสสามทั้งไตรมาสที่เท่ากับ 31,000 ล้านดอลลาร์ และตรงกันข้ามกับตลอดทั้งปี 2007 ที่พวกเฮดจ์ฟันด์อยู่ในฐานะมีเงินไหลเข้าสุทธิ 194,500 ล้านดอลลาร์