xs
xsm
sm
md
lg

แถลงผลประชุม กก.ติดตามสถานการณ์ร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนุพงษ์- (***) ให้กลุ่มเคลื่อนไหว คือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยเร็วที่สุด และยุติการชุมนุมในทุกพื้นที่ นั่นคือมติรวมของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วมที่มีมติร่วมกัน ซึ่งได้พิจารณาในทุกแง่ทุกมุมเรียบร้อยแล้ว
ในส่วนนี้คงมีข้อสรุปเพื่อให้เป็นข้อสรุปให้รัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ดำเนินการ

ถาม- ปัญหาในขณะนี้ ใครจะเป็นผู้นำไปปฏิบัติการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ยึดสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ในขณะนี้ และจะมีกรอบเวลาให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติบทบาทอย่างไร

อนุพงษ์- ในการที่จะเสนอนั้น ขณะนี้ในส่วนของรัฐบาล คณะกรรมการจะได้มีข้อสรุปเรียนเสนอท่านในกรอบของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ และเช่นเดียวกันกับกลุ่มการเคลื่อนไหว นอกจากนั้นก็ขอร้องว่าขอให้สื่อได้ช่วยสื่อไปยังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ เพราะว่าทางภาคเอกชนได้รับผลกระทบมาก ก็อยากจะให้กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ช่วยเหลือในภาคส่วนของเอกชนที่ได้รับผลกระทบมาก ได้ช่วยออกไปจากสนามบินสุวรรณภูมิ และเพื่อให้กิจกรรมต่างๆ สามารถดำเนินการไปได้เพื่อลดผลกระทบ

ถาม- ใครจะเป็นแกนนำหรือเป็นตัวแทนในที่ประชุมนี้ ซึ่งจะไปเสนอท่านนายกฯ ให้ยุบสภา ไม่ทราบว่าจะเป็นตัวท่านเองหรือเปล่า

อนุพงษ์- ในส่วนนี้ถือว่าเป็นมติของที่ประชุม ก็จะมีการทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรจากคณะกรรมการ ซึ่งเราเคยทำเสนอไปแล้ว ในการแก้ปัญหาในช่วงที่ผ่านมา

ถาม- การเสนอถึงนายกฯ โดยการทำหนังสือคิดว่าเป็นการกดดันรัฐบาลหรือกดดันท่านนายกฯ หรือเปล่า ในฐานะที่ท่านนายกฯ เป็นหัวหน้าคณะบริหารราชการแผ่นดินในขณะนี้

อนุพงษ์- ประเด็นแรกเลยที่คณะกรรมการได้พิจารณาร่วมกันที่จะแก้ปัญหานี้ ได้เริ่มต้นว่า ประเทศชาติได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้ ซึ่งจะมีผู้ที่เกี่ยวข้อง คือทั้งรัฐบาล และฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งสองส่วนนี้มีส่วนที่จะแก้ปัญหานี้ให้ลุล่วงได้ เรายึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เราไม่ได้กดดันรัฐบาล เรียนเสนอแนะว่าหนทางออกของประเทศชาติที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์ให้ทุกคนได้สบายใจ ประชาชนทุกคนจะได้สบายใจ และทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา แล้วก็ต่อสู้วิกฤตที่จะมาถึงในอนาคตร่วมกัน มิใช่เป็นการกดดันนะ เป็นการเรียนเสนอแนะ และก็ได้พูดกันหลายมิติแล้วว่า รัฐบาลน่าจะให้โอกาสกับประชาชนได้ตัดสินใจอนาคตในการที่จะเลือกตั้งใหม่

ถาม- สมมุติว่าเราไปขอร้องให้พันธมิตรฯ ยุติความเคลื่อนไหว หรือยุติบทบาท แล้วทำหนังสือเสนอให้นายกฯ ยุบสภา ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่ยอม ทหารจะทำอย่างไรในฐานะที่ดูแลความมั่นคงของชาติ

สุรพล- ขออนุญาตเรียนว่าวันนี้เป็นการประชุมกรรมการติดตามสถานการณ์

ถาม- ขออนุญาตครับ ถามผู้บัญชาการทหารบกครับ

อนุพงษ์- ไม่ใช่นะครับ กรุณาให้เกียรติกับคณะกรรมการทั้งหมดด้วยนะครับ ไม่มีใครรับผิดชอบแต่ผู้เดียว ในที่นี้ทั้งหมดร่วมกันพิจารณาทั้งหมดครับ ทุกมิติ ไม่มี one man show ที่นี่

สุรพล- ขออนุญาตเรียนว่ากรรมการติดตามสถานการณ์จากทั้งหมด ผู้นำในกองทัพ และในตำรวจ และผู้นำในภาคเอกชนทั้งหลาย ตลอดจนภาควิชาการมาร่วมประชุมในวันนี้อย่างที่เห็น แล้วก็เป็นความคิดเห็นร่วมกันหลังจากการพิจารณาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ว่าสถานการณ์มีความร้ายแรงมาก และกระทบกับประเทศชาติอย่างมากจนกระทั่งจำเป็นจะต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง พวกเราซึ่งเป็นตัวแทนขององค์กรทั้ง 5 กลุ่ม ก็ได้มีมติร่วมกันว่าจะดำเนินการเสนอต่อรัฐบาล และพันธมิตรฯ ตามแนวทางที่ผู้บัญชาการทหารบก ได้เรียนต่อที่ประชุมแล้ว ประเด็นที่ท่านถาม คือประเด็นที่ว่า ถ้าเผื่อว่าข้อเสนอในการแก้ปัญหาหาทางออกให้แก่ประเทศชาติด้วยการให้รัฐบาลยุบสภา และให้พันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมโดยทันที ซึ่งเราพูดกันว่าน่าจะภายในวันพรุ่งนี้นั้น ถามว่าพันธมิตรฯ ไม่ดำเนินการจะเป็นอย่างไร ถ้ารัฐบาลไม่ทำตามนั้นจะเป็นอย่างไร
ผมเรียนว่าเป็นความคิดเห็นโดยบริสุทธิ์ใจของคนซึ่งรับผิดชอบหลักอยู่ในประเทศชาติในขณะนี้ และเราเชื่อว่าเป็นมาตรการเดียวที่จะทำได้ เรามีความเชื่อว่าถ้ารัฐบาลได้ดำเนินการยุบสภาคืนอำนาจให้แก่ประชาชนแล้ว ประเด็นในเรื่องของความชอบธรรมในการชุมนุมเรียกร้องในขณะที่ไม่มีการตัดสินใจให้ประชาชนได้ใช้ดุลยพินิจในการเลือกผู้ปกครองใหม่ก็จะหมดไป และเรามีความเชื่อว่า สิ่งที่เราเรียกว่าความชอบธรรมในทางสังคมนั้นก็จะต้องเป็นประเด็นที่ฝ่ายพันธมิตรฯ จะต้องตอบหลังจากที่รัฐบาลได้ดำเนินการนั้นแล้ว ผมเรียนว่ามีกระบวนการหลายวิธีทีได้พูดกันในที่ประชุม
เบื้องต้นถ้าถามว่าพันธมิตรฯ ไม่ดำเนินการหลังจากที่รัฐบาลได้ดำเนินการคืนอำนาจให้ประชาชนแล้วจะเป็นอย่างไรนั้น ในชั้นต้นเราได้ตกลงกันว่า สิ่งที่เราเรียกว่าความชอบธรรมในทางสังคมก็จะเป็นคำถามที่พันธมิตรฯ จะต้องตอบ และพวกเราในนี้หลายคนก็จะต้องถามกับพันธมิตรฯ ด้วยครับ ว่าถ้ารัฐบาลได้ดำเนินการอย่างนั้นแล้ว ในประเด็นที่ท่านถามว่า ถ้ารัฐบาลจะไม่ดำเนินการจะเป็นอย่างไรนั้นในที่ประชุมก็ได้พูดกันในเบื้องต้นเรามีความเห็นว่า ทัศนะในเรื่องนี้เป็นทัศนะที่เกิดจากความบริสุทธิ์ใจ หวังดีต่อประเทศชาติอย่างยิ่งในกลุ่มของคนซึ่งถือกันว่าเป็นคนรับผิดชอบในการบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ในทุกภาคส่วน เพราะฉะนั้นเรามีความหวังว่า รัฐบาลเรียนเสนอแนะว่า หนทางออกของประเทศชาติที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์ให้ทุกคนได้สบายใจ ประชาชนทุกคนจะได้สบายใจ และทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา แล้วก็ต่อสู้วิกฤตที่จะมาถึงในอนาคตด้วยร่วมกัน มิใช่เป็นการกดดัน เป็นการเรียนเสนอแนะ แล้วก็ได้พูดกันหลายมิติแล้วว่า น่าจะต้อง รัฐบาลน่าจะให้โอกาสกับประชาชนได้ตัดสินใจอนาคตในการที่จะเลือกตั้งใหม่

ถาม- สมมติว่าเราไปขอร้องให้พันธมิตรฯ ยุติการเคลื่อนไหว หรือยุติบทบาท และเสนอให้นายกฯ ยุบสภา ทหารจะทำอย่างไรในฐานะดูแลความมั่นคงของชาติ

อนุพงษ์- (***) หวังดีต่อประเทศชาติอย่างจริง ในกลุ่มของคนซึ่งถือกันว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ในทุกภาคส่วน เพราะฉะนั้นเรามีความหวังว่ารัฐบาลจะไตร่ตรองและใช้ดุลพินิจของท่านนายกรัฐมนตรีในการดำเนินการเช่นนั้นเพื่อยุติความรุนแรง ในที่ประชุมได้พูดกันว่า ถ้าเผื่อรัฐบาลไม่ได้เสนอแนวทางอื่นในการดำเนินการ และไม่มีแนวทางการจัดการกับปัญหานี้ และไม่ดำเนินการต่อข้อเรียกร้องนี้ เราได้พูดกันถึงเรื่องของการ เราใช้คำว่า Civil (Dis)Obedience ในการที่อาจจะต้องไปถึงขั้นที่จะต้องปฏิเสธความชอบธรรมในการบริหารราชการของรัฐบาลต่อไป ถ้ายังคงปล่อยให้สถานการณ์ร้ายแรงคุกคามประเทศชาติอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ นั่นเป็นประเด็นที่ที่ประชุมได้พูดกันครับ

ถาม- ขอเรียนถามว่าในการเชิญประชุมครั้งนี้ ถือว่าเป็นไปตามการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายฉบับไหน หรือใช้กรอบประชาธิปไตยอย่างไร

อนุพงษ์- ในการแก้ปัญหาของประเทศเราในขณะนี้ มีคำสั่งเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม ของสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้อำนาจผมไว้ในฐานะประธานกรรมการ ในข้อกำหนดดังกล่าวนั้น กระผมสามารถที่จะเรียนเชิญบุคคล คณะบุคคลใด มาให้คำปรึกษา หรือเสนอแนะการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ หรือสามารถที่จะเสนอแนะรัฐบาลได้

ถาม- เมื่อเป็นเช่นนี้ จะหมายความตามที่ทุกคนคาดการณ์ไว้หรือเปล่าว่านี่คือการยึดอำนาจเงียบ

อนุพงษ์- ไม่ใช่เลยครับ ขณะนี้ทางรัฐบาลยังมีอำนาจทุกอย่าง และเรียนย้ำว่าการแก้ปัญหาในครั้งนี้เพื่อให้ประเทศชาติผ่านวิกฤตและยึดถือหลักที่ว่าเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง และอยู่บนกรอบประชาธิปไตย เป็นการเรียนเสนอแนะท่านนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหา ไม่มีการยึดอำนาจ รัฐธรรมนูญยังอยู่ครบหมดทุกอย่างครับ

ถาม- ขอเรียนถามตรงท่าน ผบ.ทบ.ในฐานะที่ท่านเป็นคนที่ประชาชนค่อนข้างจะฝากความหวังไว้ และรอ รอจนวันนี้ รอว่าท่านจะมี reaction อะไร ที่น่าจะดีกว่านี้ แต่อย่างน้อยสิ่งที่เราฟังอยู่ทุกวันเราก็อุ่นใจทางหนึ่งว่ายังมีทางออกที่อยากจะทำ แต่อยากถามว่าสิ่งที่พันธมิตรฯ ประกาศมาตลอดว่า เงื่อนไขคือให้คุณสมชายลาออก ไม่ใช่การยุบสภา ถ้ายุบสภาก็คือการรักษาการ เขายอมไหมที่จะรักษาการ และการเลือกตั้งเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ก็เหมือนกับว่าจะต้องชนะการเลือกตั้ง ตรงนี้ได้มีการหารือกันไหมว่าจะรับสถานการณ์ตรงนี้ยังไง กลุ่มพันธมิตรฯ คงไม่ยอมแน่

อนุพงษ์- ใจเย็นๆ ครับ อารมณ์ท่านเตลิดเปิดเปิงไปไกลนะครับ คงต้องตั้งมั่นอยู่บนผลประโยชน์ของชาตินะครับ การที่เรามีข้อเสนอเช่นนั้น มีหลัก มีเหตุมีผลทั้งสิ้นนะครับว่า ประเทศชาติไม่สามารถจะแก้ไขโดยวิธีอื่น การใช้ความรุนแรงก็รังจะเกิดปัญหามากยิ่งขึ้น การที่จะดำเนินการได้ เราลงความเห็นว่าเราคืนอำนาจให้กับประชาชนตัดสินดีที่สุดแล้ว และทุกคนจะต้องยอมรับในส่วนนี้ ตามมตินี้

ถาม- นี่คือทางออกที่จะให้รัฐบาล แต่ว่าตอนนี้ เวลานี้ วันนี้ วินาทีนี้ หรือวันพรุ่งนี้ เราจะแก้ปัญหายังไง เพราะวันนี้ภาพพจน์ของประเทศเราเสียหายหมดแล้ว ระหว่างที่นายกฯ จะตัดสินใจยุบสภา หรือว่าในช่วงของรัฐบาลรักษาการ จะเกิดอะไรขึ้น ตรงนี้เราได้มีการเตรียมพร้อมอะไรไหม และอีกอย่างหนึ่งคือ ทุกคนฝากความหวังไว้ที่ พล.อ.อนุพงษ์ ท่านจะอะไรยังไง

อนุพงษ์- จะเรียนว่าการที่จะแก้ปัญหาประเทศชาตินี้ จะให้มาอยู่กับผมคนเดียว ผมคิดว่าเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างจะไม่น่าจะแก้ปัญหาได้ เรียนด้วยความเป็นจริงนะครับว่าปัญหามันซับซ้อนหลายมิติด้วยกัน อยากจะเรียนว่าที่มาทั้งหมดนี้ได้พยายามพูดคุยกันอย่างดีที่สุดแล้ว และก็เรียนย้ำอีกทีว่าจะต้องเป็นไปตามที่เราได้เรียนแล้วว่า ท่านนายกฯ น่าจะเห็นผลประโยชน์ของประเทศชาติและดำเนินการดังกล่าวนี้ และทางฝ่ายพันธมิตรฯ ก็เช่นเดียวกันนะครับ แล้วท่านถามว่าจะแก้ปัญหาให้ได้ยังไง มันเสียหายมามากแล้วก็ต้องเริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้ครับถึงจะแก้ปัญหาได้ การแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่น ถ้าท่านอยากจะถาม ได้พิจารณาแล้วมันจะเกิดปัญหาตามมามากกว่าเดิมอีก ไม่น่าจะแก้ปัญหาได้

ถาม- (***) ปฏิเสธความชอบธรรมในการบริหารงานของรัฐบาล อย่างนี้จะหมายความว่าอย่างไร ที่ปฏิเสธความชอบธรรมในการบริหารงานของรัฐบาล

อนุพงษ์- ผมเข้าใจว่าทางรัฐบาลคงจะเห็นประโยชน์ของประเทศชาติ แล้วก็คงจะเห็นด้วยกับมติของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม ซึ่งมาจากทุกภาคส่วนของทางภาครัฐและภาคเอกชน และของภาควิชาการ ซึ่งเรียนเสนอด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า น่าจะต้องพิจารณาใคร่ครวญให้ดี เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยรวม ท่านก็น่าจะเห็นประโยชน์ประเทศชาติ

ถาม-

อนุพงษ์- จากนี้ไปสื่อก็จะเป็นการสื่อตรงไปถึงรัฐบาล อย่างไรก็ตามคงจะมีการสรุปเป็นลายลักษณ์อักษร ไปจากคณะกรรมการร่วม

ถาม- แล้วจะมีการกำหนดเส้นตาย

อนุพงษ์- นายกฯ คงจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องว่า ไม่ว่าจะเป็นส่วนของทางรัฐบาล หรือว่าทางพรรคการเมือง คงจะต้องไปให้เวลาเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามผมยังเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนทั้งหลายว่า หนทางที่จะแก้ปัญหานั้นน่าจะเป็นอย่างนี้ และก็น่าจะแก้ปัญหาของประเทศชาติได้นะครับ

ถาม- ท่านคิดว่าต้องใช้เวลาสักเท่าไหร่ในการดำเนินการเรื่องนี้

อนุพงษ์- ก็เร็วที่สุดนะครับ น่าจะโดยเร็วที่สุดนะครับ

ถาม- ภายในกำหนดการนี้ใช่ไหมคะ

อนุพงษ์- น่าจะอยู่ในกรอบนั้นครับ

ถาม- ท่านครับทางตัวแทนของรัฐบาลออกมาแถลงว่า หากการแถลงวันนี้มีการกดดันรัฐบาลลาออก จะทำให้นายกรัฐมนตรีเสนอให้ปลดผู้บัญชาการทหารบก หรือไม่ก็

อนุพงษ์- ผมเรียนว่าเป็นมติของคณะกรรมการร่วม ซึ่งจะแก้ปัญหาประเทศชาติว่า เราเห็นว่าเป็นข้อเสนอแนะ เราไม่ได้กดดันรัฐบาล เป็นข้อเสนอแนะว่า เราไม่เห็นหนทางอื่นที่จะแก้ไขปัญหาชาติได้เลยนะครับ ตราบใดที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ ทางออกที่เราเห็นนั้นคือ ท่านนายกฯ คืนอำนาจให้กับประชาชนตัดสินดีกว่านะครับ

ถาม- (***)

อนุพงษ์- กรอบของการพิจารณานั้นได้ยึดถือแนวประชาธิปไตย อันนี้เป็นเรื่องแรกที่เราพิจารณาคำนึงถึงเรื่องนั้นนะครับ ก็เลยเสนอแนะด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า เราไม่ได้ใช่ความกดดันเราเห็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรนะครับ ผมก็จะน้อมรับในส่วนนั้น

ถาม- (***)

อนุพงษ์- ไม่ใช่ความกดดัน เป็นการเรียนด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผลประโยชน์ของที่ตั้งของประเทศชาติเป็นหลัก

ถาม- สมมติว่าท่านนายกรัฐมนตรียุบสภา และลาออก ถ้าพันธมิตรฯ ยังไม่ยอม กองทัพจะทำเช่นไร

อนุพงษ์ - ท่านถามด้วยอารมณ์ และไม่อยู่บนหลักการเลยนะครับ คือ ผมเรียนแล้วว่าอยู่บนกรอบของประชาธิปไตย เราจะไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เราก็จะเสนอไปตามนี้
ในส่วนของเมื่อสักครู่ ถามว่าแล้วทหาร ตำรวจเฉยแล้วอย่างไร มีการดำเนินการมาโดยตลอดโดยกรอบของกฎหมาย ถ้าในกรอบของกฎหมายทำอะไรได้ ทหารได้พยายามทำเพื่อปกครองให้สังคมผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ได้ทำมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการที่จะปกป้องไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน แล้วก็พยายามรักษาความสงบเรียบร้อย จนกระทั่งมันเดินมาจนถึงขณะนี้มันไม่มีหนทางอื่นหรอกครับ ได้ประชุมกันหมดแล้วว่า น่าจะต้องแก้ไขด้วยวิธีนี้ ก็จะเรียนเสนอแนะรัฐบาล

ถาม- ถามความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางความชอบการบริหารของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าประเทศชาติ

อนุพงษ์- ผมยังเรียนเสนอว่า ทางรัฐบาลคงจะนำข้อพิจารณาของเรา มติของเราไปพิจารณาแล้วก็ขอให้ประชาชนทั้งหลายได้ร่วมกันแสดงออกทุกวิถีทางที่จะให้ข้อเสนอของเราได้เป็นข้อเสนอที่ทางรัฐบาลได้นำไปใคร่ครวญแล้วทำเพื่อประเทศชาติ ประชาชนส่วนใหญ่ที่เราหวังว่าน่าจะช่วยกันผลักดันให้การแก้ปัญหาเป็นไปในทางที่ดีที่สุด โดยประเทศชาติไม่ต้องบอบช้ำมากกว่านี้แล้ว

ถาม-

อนุพงษ์- ก็เป็นเรื่องของ อยู่ในดุลพินิจของประชาชนทั้งหมด ถ้าประชาชนทั้งหมดเห็นด้วยตามนี้ก็คงจะเกิดกระแส และช่วยกันสื่อไปทางรัฐบาล

ถาม-

สุรพล- ขออนุญาตเรียนว่าในที่ประชุมได้หารือประเด็นนี้กัน แล้วก็คิดว่าเป็นประเด็นที่จะต้องคิดต่อไป ในเบื้องต้นเราได้หารือกันว่าข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอที่มีความชอบธรรมที่จะหาทางให้เกิดสันติสุข อย่างน้อยในระดับหนึ่ง และวิกฤตในทางเศรษฐกิจที่เราประสบอยู่ การปิดสนามบินนานาชาติแห่งเดียวของเรา เรื่องเหล่านี้น่าจะคลี่คลายไปได้ในช่วงเวลาอันสั้น หลังจากนั้นคงมีความพยายามที่จะดำเนินการในส่วนอื่นต่อไป อาจจะต้องมีการหารือกันในประเด็นรายละเอียดต่อไป แต่ในเบื้องต้นเราคิดว่าบนข้อเสนอที่ที่ประชุมได้หารือกันอย่างกว้างขวางและบนเจตนาที่ดีอันนี้ ไม่น่าจะมีทางออกทางอื่นที่จะนำเหตุการณ์ร้ายแรงให้มันกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ดียิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นที่ประชุมมีความเชื่อว่าข้อเสนอนี้เป็นทางออกทางเดียวที่เหลืออยู่สำหรับประเทศไทย จึงได้นำเสนอต่อสังคม และก็คิดกันอย่างที่ท่านถามว่า ถ้าเผื่อรัฐบาลไม่ดำเนินการ และไม่ปรากฏว่าจะมีวิธีการแก้ปัญหาอื่น นอกจากการพยายามที่จะใช้กำลัง ซึ่งในที่ประชุมก็ได้พูดกันว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในวิสัย แต่ว่ามันจะเกิดเหตุรุนแรงตามมา และจะมีความสูญเสียมากยิ่งกว่า เมื่อคำนึงถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้แล้ว จึงมีข้อเสนอว่า ขอให้รัฐบาลยอมที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชนในเบื้องต้นเสียก่อน แล้วจะนำไปสู่ประเด็นอื่น ในที่ประชุมได้พูดกันอย่างที่ผมเรียนว่า จะมีประเด็นของการที่จะ ถ้าหากไม่มีข้อเสนอที่ดีกว่านี้ วิธีการในการที่จะไม่เคารพเชื่อฟังรัฐบาลก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการที่จะดำเนินการกับรัฐบาลที่อาจจะไม่สามารถดูแลสถานการณ์ให้เกิดความสงบสุขในประเทศได้ เราไม่ได้พูดกันว่าใครผิดใครถูกนะครับ คงมีฝ่ายที่ผิดและถูก แต่ประเด็นที่พูดกันก็คือ บนพื้นฐานของการเป็นรัฐบาลที่รับผิดชอบการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการบางอย่างที่จะดำเนินการให้เกิดความสงบสุขในระดับหนึ่งของประเทศได้ เมื่อไม่มีมาตรการเช่นนี้เราก็คิดว่าก็ควรที่จะให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกรัฐบาลใหม่ที่จะทำหน้าที่นี้ได้ นี่ก็เป็นข้อเสนอที่บอกว่า คงจะเป็นเรื่องของการ อาจจะปฏิเสธความชอบธรรมของรัฐบาล ถ้ารัฐบาลทำอะไรไม่ได้ซึ่งก็เป็นกระบวนการตามปกติของระบอบการปกครองแบบนี้ ในที่ประชุมได้พูดกันในแนวทางนี้ครับ

อนุพงษ์- ขออนุญาตสื่อสักนิดนะครับ ในขณะนี้ผมอยากจะเรียนขอร้องสื่อว่า อันเนื่องมาจากว่าเราได้พิจารณากันในหลายแง่หลายมุม และเราก็เห็นว่าหนทางนี้จะเป็นไปได้ ผมขออนุญาตขอร้องสื่อว่า ขอให้สื่อได้ช่วยกันสร้างความเข้าใจให้ชนในชาติ ประชาชน คนไทยได้เห็นว่ามันเป็นแนวทางที่จะแก้ปัญหาประเทศชาติได้ อย่าไปตั้งคำถามว่าถ้าเขาไม่ทำแล้วจะทำอย่างไร มันไม่น่าจะสร้างสรรค์ได้ อยากจะขอร้องสื่อว่าให้ช่วยกันสื่อการพิจารณาของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ ซึ่งยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ออกไปยังประชาชน ให้แพร่หลายและสร้างความเข้าใจ ดีกว่าที่จะไปพาดหัวว่ากดดันรัฐบาล หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมันเป็นไม่สร้างสรรค์ที่ประเทศไทยผ่านเรื่องนี้ไปได้เลย อยากจะเรียนขอร้องสื่อด้วยนะครับ

ถาม- เราจะทำยังไงกับต่างชาติที่เขาจะมองประเทศไทยต่อไปยังไง

อนุพงษ์- ขออนุญาตเรียนว่านี่เป็นประเด็นที่ว่าข้อพิจารณาแรกเลยว่า เราจะแก้ปัญหาบนกรอบของประชาธิปไตยซึ่งต่างชาติเขาดูอยู่ ต่างชาติเขาขอว่าให้ดำเนินการทุกอย่างอยู่ในกรอบประชาธิปไตย เราก็ได้พิจารณาร่วมกันทั้งหมดด้วยการไม่ใช้ความรุนแรง ทุกอย่างยังอยู่ในกรอบประชาธิปไตยอยู่ ยังมีกฎหมายรัฐธรรมนูญบังคับใช้อยู่ทุกอย่าง นายกรัฐมนตรีก็สามารถใช้อำนาจที่จะยุบสภาด้วยตัวของท่านเอง แล้วก็มีการเลือกตั้ง แล้วก็ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ยังอยู่ในกรอบ อันนี้ถือภาพที่ต่างชาติต้องการเป็นอย่างยิ่ง จะดำเนินการอย่างไรก็ได้แต่ขอให้อยู่ในกรอบประชาธิปไตย ยืนยันว่าสิ่งที่เราทำอยู่อยู่ในกรอบประชาธิปไตยครับ เป็นการเรียนเสนอแนะรัฐบาล แล้วก็อยากให้ประชาชนได้เข้าใจในส่วนนี้

ถาม- เชื่อมั่นไหมว่าจะสำเร็จขึ้นมาได้

อนุพงษ์- จะต้องสำเร็จนะครับ ไม่งั้นประเทศชาติคงจะแย่ เพราะว่าผลกระทบในหลายๆ ด้าน ซึ่งเราไม่อยากจะพูดเพราะมันจะมาก มันเสียเวลานะครับ ว่าผลกระทบมันเกิดมาก มากเหลือเกิน ก็เลยอยากจะให้มันผ่านไปโดยเร็วที่สุด จึงเสนอออกมาตามข้อมติดังกล่าว

ถาม- ข่าวที่ออกมาจากทางซีกรัฐบาล บุคคลใกล้ชิดนายกฯ ระบุว่านายกฯ จะสู้ จะไม่ยอมลาออกและจะไม่มีการยุบสภาแน่นอน และจะขอให้มีการประกาศใช้ พ.ร.ก. (***) แต่ถ้าท่านไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะมีการปลด ผบ.ทบ. (***)

อนุพงษ์- ในการที่จะแก้ปัญหานั้น ถ้าท่านจะตั้งกลุ่ม ผมก็จะเรียนท่านว่าการแก้ปัญหาโดยใช้ความรุนแรง เราพิจารณาดูแล้วมันไม่สามารถจะแก้ปัญหาให้ประเทศชาติได้ และจะเกิดปัญหาตามมาอีกมาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้การรุนแรง มันไม่น่าจะแก้ปัญหาได้

ถาม- ขออนุญาตเรียนถาม ผบ.ทบ.ว่าการออกมาแสดงอย่างนี้กลัวว่าจะถูกนายกฯ ปลดกลางอากาศไหม และประตูของการปฏิวัติที่ท่านเคยบอกว่าปิดไปแล้วในอนาคตอันใกล้มันจะเกิดขึ้นอีกไหม

อนุพงษ์- ในส่วนของเรื่องตัวผมนั้น ผมเรียนด้วยความบริสุทธิ์ใจ ให้ท่านไปพิจารณาเพื่อประเทศชาติ ท่านคงพิจารณานะครับ มันจะเกิดอะไรขึ้นผมก็น้อมรับ ไม่เป็นไรครับ

ถาม-

อนุพงษ์- ได้พยายามทำอย่างที่ทำอยู่แล้วนะครับ ว่าพิจารณาดูแล้วการจะปฏิวัติก็พิจารณาแล้วว่ามันทำไมไม่ได้ มันจะเกิดผลกระทบมากมาย ได้พยายามหาผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ คือทุกกระทรวง ท่านปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ท่านอธิบดีทุกกรม ภาคเอกชน ท่านนักวิชาการ คือท่านอธิการบดี ได้มาช่วยกันร่วมคิดแล้ว ผมไม่ได้คิดเองนะครับ ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ในบทบาทของผู้บัญชาการทหารบกนั้น ถ้าปฏิวัติได้แล้วทำให้มันจบได้ ก็จะทำนะครับ ได้เรียนย้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่ทำแล้วมันไม่ได้ มันไม่จบ มันจะเกิดปัญหามากมาย ต่อต่างชาติก็ไม่ได้ มิติของเศรษฐกิจก็ไม่ได้ มิติของสังคมก็จะเกิดความแตกแยก เปลี่ยนจากชุดเหลืองเป็นชุดแดง ทำอย่างนี้อีกเช่นเดียวกัน มันแก้ปัญหาไม่ได้นะครับ เราได้พิจารณาทุกแง่ทุกมุมแล้วนะครับว่ามันออกมาลักษณะนี้ จะเป็นหนทางให้ประเทศชาตินั้นรอดได้ ท่านนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่ได้มีอะไรที่จะเสียหาย ท่านยังมีอำนาจที่จะดำเนินการดังกล่าว แล้วก็เลือกตั้ง ทางพรรคดังกล่าวที่เป็นความนิยมของประชาชนก็อาจจะกลับมาได้

ถาม- การที่พันธมิตรฯ ไปบุกรุกสถานที่ราชการ หรือสนามบิน มีความชอบธรรมหรือไม่ แล้วทางหน่วยงาน (***)

อนุพงษ์- ในส่วนนี้ขอเรียนว่า การดำเนินการของกลุ่มใดก็แล้วแต่ ก็จะต้องอยู่บนหลักของกฎหมาย การดำเนินการอะไรที่ผิดกฎหมายก็จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย

ถาม- การชุมนุมของพันธมิตรฯ มันเกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว แต่รัฐบาลและตำรวจยังไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ อยู่ๆ มามีมติที่ประชุมและสั่งให้รัฐบาลยุบสภา จะมีความชอบธรรมหรือไม่

อนุพงษ์- ขอเรียนอีกครั้งหนึ่งว่าขณะนี้ไม่ได้เรียกว่าปฏิวัติเลยนะครับ การปฏิวัตินั้น จะเรียกว่า การยึดอำนาจรัฐอะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้มีการดำเนินการดังกล่าวเลย และท่านพูดเอง ว่า เขาจะมาปลดผม ไม่มี เขายังมีอำนาจอยู่ทุกอย่าง ที่จะตัดสินใจดำเนินการทางการเมือง หรือว่าทางการบริหารได้ ดำเนินการได้เลยทุกอย่าง ก็เหตุการณ์ดังกล่าว การแก้ปัญหานี้ หน่วยงานภาครัฐทั้งหลายพยายามช่วยกันแก้ปัญหา ท่ามกลางความขัดแย้งของคน 2 กลุ่มมาตลอด โดยพยายามที่จะทำให้ประเทศชาติดำรงอยู่ได้ พยายามทำตามหน้าที่ ตามตัวบทกฎหมายทุกอย่าง จนกระทั่งสถานการณ์มันมาถึงจุดหนึ่ง ซึ่งทำไม่ได้ ท่านก็ตอบเองว่า จะต้องตั้ง ต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรืออะไรก็แล้วแต่
นั่นแหละครับ คือคำตอบว่า มันจะต้องไปแก้ด้วยวิธีนั้น คำตอบนั้นคือจะให้ทำการสลายผู้ชุมนุม แน่นอน คือจะเกิดความรุนแรง ท่านจะต้องหาว่า ทางตำรวจใช้มาตรการรุนแรง เกิดการล้ม เจ็บตาย อาจมีการสูญเสียสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยอะไรก็แล้วแต่ นั่นคือสิ่งที่เราประเมินแล้วว่า มันแก้ปัญหาไม่ได้ และมันมาถึงจุดที่ว่า ยอมจะให้อย่างนี้ เกิดต่อไปหรือไม่อย่างไร มันยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ประเทศชาติมันเสียหายมาก

ถาม - สิ่งที่ท่านกล่าวอยู่ ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสมแล้วหรือยังครับ

อนุพงษ์ - เหมาะสมที่สุดครับ

ถาม - สิ่งที่พันธมิตรฯ ทำ ท่านมองว่าผิดกฎหมาย หรือถูกกฎหมายครับ ทุกวันนี้

อนุพงษ์ - ต้องเรียนว่า ขอให้กฎหมายมันเป็นกฎหมาย จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย สิ่งที่ทำมา ที่ผ่านมา ก็อยู่ในกระบวนการกฎหมายทั้งสิ้น ยังมีคดีในศาลมากมาย แม้กระทั่งการดำเนินการที่สุวรรณภูมิ ก็จะต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย และมีการดำเนินการตามกฎหมายครับ

ถาม - ถ้ารัฐบาลยอมที่จะ *** ท่านเสนอ แต่พันธมิตรฯไม่ยอมจบ ***

อนุพงษ์ - ก็มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ ลงความเห็นว่า สังคมคงจะต้องให้เจ้าหน้าที่มีความชอบธรรมที่จะดำเนินการได้ เราจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่สร้างความเข้าใจกับคนที่ชุมนุมในส่วนที่เขามีความเข้าใจถึงผลประโยชน์ประเทศชาติ ว่า ถ้ายังดำเนินการดังกล่าว ผลกระทบจะเกิดมาก อาจเกิดการปะทะกับคนในชาติด้วยกันเอง เศรษฐกิจจะล่มจม ต้องค่อยสร้างความเข้าใจ และขอร้องให้เขาสลายตัว ซึ่งมั่นใจว่า ประชาชนทุกคนที่อยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็มีความรักประเทศชาติเช่นเดียวกัน

ถาม- ท่านครับ มติที่ประชุมวันนี้ สามารถที่จะทำให้คนไทยที่มีความแตกแยกของ 2 ฝ่าย จะสามารถกลับมาปรองดองกัน ***

อนุพงษ์ - เรามั่นใจว่า ปัญหาต่างๆ น่าจะคลี่คลายไป เราจะช่วยกันสร้างความเข้าใจอันดีในสังคม ค่อยๆ สร้างความเข้าใจที่ดี และค่อยผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ เรามั่นใจว่า ประชาชนในชาติจะเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย ว่า ความเสียหายมันเกิดกับประเทศชาติและเราต้องมีข้อยุติ

ถาม - ท่านค่ะ ถ้าเกิดไม่พอใจมติของท่าน ***

อนุพงษ์ - ในส่วนนี้อยากขอร้อง เรียนขอร้องกลุ่มอื่นๆ ไม่ว่ากลุ่มใดก็แล้วแต่ ด้วยความเคารพว่า เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ บ้านเมืองนั้น ถ้าทุกฝ่ายเอาอัตราของตนเองมาเป็นที่ตั้ง ไม่คำนึงถึงประเทศชาติที่จะต้องล่มจม มันจะเกิดปัญหา สื่อต้องสร้างความเข้าใจ ช่วยกันสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนว่า เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ ต้องขออนุญาต ว่า จะใช้คำว่า ทำอย่าไงก็ได้ให้ประเทศชาติมีทางออก

ถาม - ท่านครับ ขอเรียนถามนิดนึง คือข้อเสนอ *** มาจาก ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศไทย ก็เสมือนเป็นความหวัง *** ขณะเดียวกัน ถ้าย้อนดูต้นเหตุปัญหา มันจะมีต้นเหตุที่เกิดจากในส่วนของอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความพยายามเคลื่อนไหวอยู่ ในเมื่อทางออกวันนี้ ทุกฝ่ายอาจตอบรับ และก็จบด้วยดี มันก็อาจเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สิ่งที่เป็นต้นเหตุปัญหา ยังไม่ยุติ ในส่วนนี้ ตัวแทนหรือที่ประชุมจะดำเนินการส่วนนี้อย่างไร เพราะว่า การดำเนินการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือทางออกชั่วครู่เท่านั้นเอง

อนุพงษ์ - ในส่วนนั้น ถ้าเราเอามา ผมอยากเรียนว่า ถ้าเอามาพิจารณาอย่างนี้มันก็อาจจะไปถึงทางตัน ที่ว่าถ้าท่านไปพูดในลักษณะนั้น ผมขออนุญาตเรียนว่าท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ท่านมีคำพิพากษา มีความผิด ท่านถูกอายัดทรัพย์สินอยู่ในประเทศไทย ท่านได้รับโทษไปแล้วนะครับ ในขณะนี้ ท่านไม่สามารถจะทำอะไรได้ ถึงท่านจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็ตาม ท่านก็ยังมีโทษอยู่ ก็เป็นไปตามหลักกฎหมาย ซึ่งต่างชาติก็รับได้ในส่วนนั้น ผมว่าถ้าเราไปอยู่ในจุดที่ว่าเป็นไปตามหลักกฎหมาย นายกรัฐมนตรีก็ต้องมาแก้คดี ถ้าไม่แก้คดีท่านก็จะต้องเป็น ถูกต้องโทษ ถูกลงโทษดังกล่าวนี้ เพราะฉะนั้นในเรื่องนั้นท่านก็ได้รับโทษไปแล้ว ในส่วนที่ว่าถ้าท่านยังเคลื่อนไหวต่อไป ประชาชนในชาติก็จะต้องช่วยกันนะครับ มันไม่มีทางอื่นจริงๆ ต้องสร้างความเข้าใจให้ประชาชนในชาติว่า ถ้าเรายังไปยึดติดกับอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมันไม่ใช่ผลประโยชน์ของชาติ ทุกคนได้รับผลกระทบโดยรวม ถ้าทุกคนเห็นว่าผลประโยชน์ของชาติเป็นอย่างไรแล้วช่วยกันแก้ สังคมก็จะไปได้

ถาม- วันนี้เป็นที่เห็นชัดกันแล้วว่ากระบวนการยุติธรรมใช้ไม่ได้กับคนที่ไม่มีสำนึก

อนุพงษ์- ขออนุญาตว่ายังใช้ได้นะครับ เพราะท่านก็ถูกคำพิพากษา มีความผิดนะครับ ต้องเชื่อมั่น ถ้าท่านพูดกันอย่างนี้ คน ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะ ผมอยากจะเรียนท่านว่าประเทศไทยนั้นกระบวนการยุติธรรมยังใช้ได้นะครับ ท่านอดีตนายกรัฐมนตรีท่านถูกคำพิพากษาว่ามีความผิดนะครับ แล้วก็ยังถูกอายัดทรัพย์อยู่ในขณะนี้นะครับ และเมื่อท่านยังไม่มาแก้คดีท่านก็ยังถูกพิพากษาอยู่นะครับ

ถาม-

อนุพงษ์ - ไม่เป็นไรครับ นำเสนอไปก่อนครับ เสนอไป เป็นหนทางที่ดีที่สุด ที่เราเห็นร่วมกันว่าน่าจะทำให้ประเทศชาติ ผ่านวิกฤตไปได้ ก็เสนอกันไป

ถาม - สิ่งที่เป็นมติวันนี้ ในที่สุด เป็นเพราะว่า ท่านกลัวที่จะถูกถอดออกจากตำแหน่ง

อนุพงษ์ - ท่านพูดไม่เป็นตรรกะเลยนะครับ ถ้าผมจะกลัวที่จะถูกปลด ผมปฏิวัติก็ได้นะครับ ผมจะใหญ่ที่สุดเลยในประเทศนี้ และสั่งการได้ทุกอย่างเลย แต่ว่าเราเลี่ยงที่จะทำเช่นนั้น เพราะถ้าจะกลัวถูกปลด ไม่ต้องมาเสนออย่างนี้ ผมปฏิวัติเลย และผมจะใหญ่ที่สุดในประเทศนี้เลย แต่ผมไม่เลือกทำวิธีนั้น เพราะมันแก้ปัญหาประเทศชาติไม่ได้ ไม่เป็นตรรกะเลย และอย่าเข้าใจผิดว่า กลัวจะเสียตำแหน่ง ไม่กลัวเสียตำแหน่ง เพราะที่เสนอนี่ ก็อาจจะเสียก็ได้ ผมไม่แน่ใจ

ถาม - แล้วหลังจากนี้เราจะทำอย่างไรต่อไป ในเมื่อทั้ง 2 ฝ่าย ***

อนุพงษ์ - ได้ครับ ท่านช่วยกันสร้างความเข้าใจให้ประชาชนในชาติ ว่า หนทางที่คนทั้งหมดที่บริหารประเทศอยู่ในภาคของข้าราชการเนี้ยะ กับภาคเอกชนและก็ภาควิชาการ ได้เห็นร่วมกันว่า หนทางที่ดีที่สุดคือ หนทางเช่นนี้ ท่านช่วยกันสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในชาติ น่าจะช่วยกันทำให้ทางทุกภาคส่วน ได้ตระหนักในสิ่งที่เราเสนอ

ถาม -

อนุพงษ์ - ขออนุญาตว่า ไม่เป็นนามธรรมเลย นี่แหละเป็นรูปธรรมที่สุดเลยละครับ ผมเห็นว่า ถ้าทำตามเนี้ยะ เป็นรูปธรรม

ถาม - คดีความอะไร

อนุพงษ์ - ถ้าทุกท่านช่วยกัน ประชาชนทุกคนอยู่ในความแตกแยก ประชาชนทุกคนต้องเข้าใจที่จะสร้างความเข้าใจ ผมไม่สามารถบอกได้ว่า ให้คุณเข้าใจกัน ทุกคนต้องเข้าใจ โดยยึดถือสถาบันหลักของชาติเป็นหลัก โดยท่านต้องช่วยกันนะครับ เพราะไม่งั้นเราจะผ่านตรงนี้ไม่ได้ มันเกิดแล้ว มันเป็นไปแล้วก็ต้องแก้ ไม่มีทางอื่น ขอบคุณครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น