นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากพบกับนักธุรกิจเอเปก ว่า ได้รับทราบรายงานจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบปาระบิดที่แยกมิสกวัน เมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามหาผู้ก่อเหตุโดยเร็ว เพื่อจะได้ทราบชัดเจนว่าเป็นฝีมือของใคร ส่วนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นจะส่งผลให้ทหารต้องออกมาใช้กำลังเพื่อควบคุมสถานการณ์หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทหารไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร และไม่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่ปัจจัยที่ทหารต้องมาควบุคมสถานการณ์บ้านเมือง ขณะเดียวกัน มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมตัวคนร้ายได้
ส่วนกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศระดมมวลชนครั้งใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประชุมร่วม 2 สภา พิจารณากฎหมายสำคัญในวันพรุ่งนี้ นายสมชาย ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง และไม่เข้าใจว่าพันธมิตรฯ จะยึดรัฐสภาด้วยเหตุผลอะไร เพราะการประชุมร่วม 2 สภาดังกล่าวไม่ได้เป็นการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการพิจารณากฎหมายสนธิสัญญาจำนวน 24 ฉบับ ที่จะต้องใช้ในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนหน้า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จากการได้พบปะผู้นำประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่แปลกใจที่กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถบุกยึดทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของประเทศได้
ส่วนการยุบพรรคการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดตรวจบัญชีพยานในวันพุธที่ 26 พฤศจิกายนนี้ นายกรัฐมนตรี เห็นว่าหากศาลรัฐธรรมนูญลงมติก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน เกรงว่าจะมีผลกระทบกับประเทศไทยโดยตรง เพราะการประชุมครั้งนี้จะมีประเทศที่เข้าร่วมประชุมถึง 16 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่เคยยึดติดกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เป็นห่วงบ้านเมือง และต้องการให้บ้านเมืองสงบสุขอย่างแท้จริง
ส่วนกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศระดมมวลชนครั้งใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประชุมร่วม 2 สภา พิจารณากฎหมายสำคัญในวันพรุ่งนี้ นายสมชาย ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง และไม่เข้าใจว่าพันธมิตรฯ จะยึดรัฐสภาด้วยเหตุผลอะไร เพราะการประชุมร่วม 2 สภาดังกล่าวไม่ได้เป็นการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการพิจารณากฎหมายสนธิสัญญาจำนวน 24 ฉบับ ที่จะต้องใช้ในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนหน้า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จากการได้พบปะผู้นำประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่แปลกใจที่กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถบุกยึดทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของประเทศได้
ส่วนการยุบพรรคการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดตรวจบัญชีพยานในวันพุธที่ 26 พฤศจิกายนนี้ นายกรัฐมนตรี เห็นว่าหากศาลรัฐธรรมนูญลงมติก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน เกรงว่าจะมีผลกระทบกับประเทศไทยโดยตรง เพราะการประชุมครั้งนี้จะมีประเทศที่เข้าร่วมประชุมถึง 16 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่เคยยึดติดกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เป็นห่วงบ้านเมือง และต้องการให้บ้านเมืองสงบสุขอย่างแท้จริง
