xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.สับ “สมชาย” ตีสองหน้า ชี้กระทบถก 4 ฝ่ายแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.
โฆษก ปชป.เชื่อวิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองปะทุอีกรอบ หลังรัฐบาลน้องเขยจับกุมแกนนำพันธมิตรฯ ระบุ “สมชาย” ทำลายความชอบธรรมตัวเอง ตีสองหน้าไม่ต่างจากยุคนายใหญ่ ชี้ส่งผลกระทบการประชุม 4 ฝ่าย

วันนี้ (5 ต.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความห่วงใยต่อการกระทำของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่มีการจับกุมแกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นการทำลายความชอบธรรมของตัวเองในการใช้วิธีเจรจาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งที่นายกรัฐมนตรีได้พูดมาโดยตลอด แต่กลับมีพฤติกรรมจงใจที่จะสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งเพิ่มเติมและพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอันนำไปสู่การทำปฏิวัติรัฐประหาร เนื่องจากพูดอย่างหนึ่งทำอีกอย่างหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่การประชุม 4 ฝ่ายอยู่ระหว่างเดินหน้าแต่นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอำนาจสูงสุดกลับเป็นฝ่ายแรกที่กลับคำพูดตัวเองทั้งที่ได้ให้ความหวังกับประชาชนว่าจะทำให้สังคมดีขึ้นด้วยการเจรจา ดังนั้นรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจึงตกอยู่ในสภาพหมดความน่าเชื่อถือโดยสิ้นเชิง

นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถคุมสถานการณ์ภายในพรรคพลังประชาชนได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบรรจุร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร.ซึ่งลูกพรรคพลังประชาชนได้ออกมาแสดงความขัดแย้งเกี่ยวกับแนวทางการสนับสนุนบางกลุ่มจะคว่ำและบางกลุ่มจะสนับสนุน ขณะเดียวกัน ได้มีนักการเมืองหลายกลุ่มภายในพรรคพลังประชาชนที่มีการจัดเตรียมฝูงชนเข้ามาใน กทม.เพื่อเข้ามาให้การสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร.ในสัปดาห์หน้า ทำให้สถานการณ์ในบ้านเมืองเกิดความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะทำให้สถานการณ์ลุกลามเพราะอาจะเกิดเหตุการณ์ม็อบชนม็อบซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

“เราได้บอกมาโดยตลอดเวลาว่าแนวทางการแก้ปัญหาจะต้องสะท้อนถึงความจริงจังในการแก้ปัญหา กล่าวคือหากมีแนวทางใช้การเจรจาและใช้สันวิธีก็ควรจะทำแบบเดียวกันในทุกองค์ประกอบ และหากจะจับกุมปฏิบัติตามกฎหมายก็ควรที่จะเดินหน้าไปในทางเดียวกัน รวมถึงการดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย แต่นายกรัฐมนตรีเลือกที่จะทำยุทธศาสตร์แบบตีสองหน้า ทำให้เกิดผลกระทบถึงความมั่นใจของประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ท่าที่ของนายกรัฐมนตรีจะกระทบต่อการเจรจา 4 ฝ่ายด้วย ถ้าหากนายกรัฐมนตรีไม่จริงใจและไม่สามารถควบคุม ส.ส.ในพรรคได้ก็เสี่ยงที่กระบวนการตั้ง ส.ส.ร.3อาจจะถูกเสียงข้างมากกำหนดให้ขาดความเป็นการในการสรรหาและถ้าหากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถสร้างความมั่นใจในส่วนนี้ได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะทบทวนบาทในการเข้าร่วม ส.ส.ร.3 และการประชุม 4 ฝ่าย หากนายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมและคำพูดที่ไม่สามารถสร้างความมั่นใจในการปฏิรูปการเมืองได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะถอนตัวออกมา” นพ.บุรณัชย์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น