"โอฬาร"เชื่อ ศก.ยุ่นถดถอยไม่กระทบไทย แนะเอกชนใช้ประโยชน์ JTEPA

นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นที่เข้าสู่ภาวะถดถอยนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น หรือ เจเทปป้า (JTEPA) รวมทั้งความร่วมมือทางการเงินที่จะเกิดขึ้นในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ซึ่งน่าจะทำให้ความร่วมมือทางการเงินเกิดขึ้นได้เร็ว โดยมองว่าภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในญี่ปุ่นจะทำให้มีเงินออมมากขึ้น และเชื่อว่าจะไม่มีการปลดคนงานในประเทศไทยลง เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งหากปลดคนงานจะยิ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน ดังนั้น จึงอาจใช้วิธีการลดชั่วโมงการทำงานลงแทน
ส่วนความร่วมมือภายใต้ข้อตกลงเจเทปป้านั้น มองว่าจะทำให้ไทยได้ประโยชน์จากการค้าและการลงทุน รวมถึงการบริการมากขึ้น ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยไทยจะยังได้รับประโยชน์จากการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาและวิจัยผลิตรถยนต์ส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป
ด้านนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ปัญหาเศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่นที่ถดถอยนั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เนื่องจากสินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปญี่ปุ่นเป็นอุตสาหกรรมอาหารและสิ่งทอ ซึ่งยังขยายตัวได้ดีตามความต้องการบริโภคของประเทศญี่ปุ่น ประกอบกับได้รับประโยชน์จากการที่ประเทศจีนมีปัญหาอาหารปนเปื้อนและได้รับสิทธิประโยชน์จากภาษีภายใต้ข้อตกลงเจเทปป้า ดังนั้น เชื่อว่าการส่งออกสินค้าไทยไปญี่ปุ่นปีนี้จะยังขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 21
ส่วนการลงทุนนั้นนักลงทุนญี่ปุ่นยังคงมองว่าไทยและอาเซียนเป็นประเทศที่น่าลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็กที่ญี่ปุ่นสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีนั้นเชื่อว่าทีมเศรษฐกิจของนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง และการปรับในครั้งนี้มองว่าจะเป็นการปรับให้ดี ขณะที่ต่างประเทศก็จับตามองสถานการณ์ทางการเมืองไทยอยู่
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงในเรื่องของแรงงานและปัญหาสภาพคล่องในปีหน้าที่อาจมีมากขึ้น จะต้องมีการหารือกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ