เอเอฟพี – รัฐบาลไอร์แลนด์สั่งเรียกเก็บผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมู ที่ผลิตในประเทศทั้งหมด หลังตรวจพบสารพิษปนเปื้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง ขณะที่เนื้อหมูปนเปื้อนนี้อาจถูกส่งออกไปยัง 25 ประเทศทั่วโลกแล้ว
สำนักงานด้านความปลอดภัยอาหารของรัฐบาลไอร์แลนด์ หรือ เอฟเอสเอไอ ประกาศเตือนประชาชน ว่า ไม่ควรบริโภคเนื้อหมู และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อหมูทุกชนิด ซึ่งผลิตในไอแลนด์ จนกว่าทางรัฐบาลจะทราบรายละเอียดของการปนเปื้อน
การตรวจสอบพบว่า สารไดออกซินในเนื้อหมูอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ แม้ทางการชี้ว่า โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งนั้นต้องขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้บริโภคที่อ่อนแออย่างยิ่งด้วย
เจ้าหน้าที่คาดว่า การปนเปื้อนสารพิษในเนื้อหมูน่าจะเกิดจากการกินอาหารปนเปื้อน ซึ่งพบการปนเปื้อนเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังการตรวจสอบตามกิจวัตร โดยยังส่งผลกระทบกับผลิตภัณฑ์เนื้อหมูทั้งหมด ที่ผลิตตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน
ด้าน แพดดี โรแกน หัวหน้าสัตวแพทย์ไอร์แลนด์ ระบุว่า ผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากไอร์แลนด์น่าจะส่งออกไปยัง 20-25 ประเทศ แต่น้อยกว่า 30 ประเทศแล้ว
ไอร์แลนด์เป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อหมูรายใหญ่ โดยมีอังกฤษเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่สุด ตามด้วย ญี่ปุ่น เยอรมนี รัสเซีย ฝรั่งเศส และ สหรัฐฯ โดยพบเนื้อหมูปนเปื้อนในฝรั่งเศส และเบลเยียม ด้วย ขณะที่สำนักงานมาตรฐานอาหารของอังกฤษได้แนะให้ประชาชนงดบริโภคเนื้อหมูของไอร์แลนด์มาระยะหนึ่งแล้ว
คาดว่า การประกาศเรียกคืนเนื้อหมูของทางการไอร์แลนด์ครั้งนี้ จะสร้างความเสียหายเป็นมูลค่าถึง 400 ล้านยูโร (500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โดยเฉพาะอังกฤษจะได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากเป็นผู้นำเข้าเนื้อหมู และผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมูจากไอร์แลนด์รายใหญ่ที่สุด
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศว่า จะควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเจ้าหน้าที่ไอร์แลนด์เชื่อว่าแหล่งสารพิษปนเปื้อนน่าจะมาจากน้ำมันอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ สารไดออกซินปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม มาจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ไฟป่า แต่ไดออกซินมักอยู่ในรูปของเหลือจากการเผาไหม้ในอุตสาหกรรม และกระบวนการทางเคมี โดยที่สหภาพยุโรปได้ตั้งระดับที่มากที่สุดของไดออกซินในผลิตภัณฑ์อาหารไว้ต่ำมาก
