นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ยอมรับว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงย่อมส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินการลงทุนใหม่ในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันนี้การลงทุนในประเทศได้เปลี่ยนจากภาพในอดีตที่ทดแทนการนำเข้า เป็นการลงทุนเพื่อขยายการส่งออก
อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าแม้เม็ดเงินขอส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะลดลงบ้างแต่ก็ไม่กระทบเศรษฐกิจมากนัก เพราะหากดูการลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการลงทุนจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ เช่น ปิโตรเคมี ยานยนต์ ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่า ก็ทำให้เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นไปสูงถึงระดับ 500,000-600,000 ล้านบาท เพราะถ้าดูในระยะปกติ เม็ดเงินลงทุนของไทยอยู่ในระดับ 300,000-400,000 ล้านบาท ดังนั้น หากเม็ดเงินขอบีโอไอ อยู่ในระดับนี้ ก็น่าพอใจ และไม่กระทบต่อเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับการลงทุน ประเทศไทยก็ต้องเตรียมพร้อมรองรับการลงทุนใหม่ โดยต้องเตรียมเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐาน เรื่องการพัฒนาบุคลากรรองรับให้พร้อม โดยในขณะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการลงทุนของไทยคือการขาดแคลนแรงงาน
อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าแม้เม็ดเงินขอส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะลดลงบ้างแต่ก็ไม่กระทบเศรษฐกิจมากนัก เพราะหากดูการลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการลงทุนจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ เช่น ปิโตรเคมี ยานยนต์ ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่า ก็ทำให้เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นไปสูงถึงระดับ 500,000-600,000 ล้านบาท เพราะถ้าดูในระยะปกติ เม็ดเงินลงทุนของไทยอยู่ในระดับ 300,000-400,000 ล้านบาท ดังนั้น หากเม็ดเงินขอบีโอไอ อยู่ในระดับนี้ ก็น่าพอใจ และไม่กระทบต่อเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับการลงทุน ประเทศไทยก็ต้องเตรียมพร้อมรองรับการลงทุนใหม่ โดยต้องเตรียมเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐาน เรื่องการพัฒนาบุคลากรรองรับให้พร้อม โดยในขณะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการลงทุนของไทยคือการขาดแคลนแรงงาน