นายวิน วิริยะประไพกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสทรี จำกัด (มหาชน ) เปิดเผยระหว่างนำคณะสื่อมวลชนใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ทัศนศึกษานิคมอุตสาหกรรมบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า โจทย์ที่ตระหนักและอยากจะแก้ก็คือ ปัญหาความต้องการใช้เหล็กของประเทศ โดยตัวเลข ณ เดือนสิงหาคม มีมูลค่านำเข้า 4.1 แสนล้านบาท และทั้งปีจะสูงถึง 6 แสนล้านบาท ซึ่งหมายถึงการล้มละลายทางด้านอุตสาหกรรม หากไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้นการผลักดันอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำ คือการทำให้เม็ดเงินที่ต้องสูญเสียไปจากการนำเข้า กลับเข้ามาและก่อให้เกิดการจ้างงานในประเทศ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การสร้างอุตสาหกรรมเหล็กใน อ.บางสะพาน เกิดจากผลการศึกษาของกระทวงอุตสาหกรรมและสหประชาชาติ ซึ่งระบุว่า พื้นที่นี้มีความเหมาะสมในการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินโครงการ เนื่องจากสามารถลดต้นทุนค่าขนส่งสามารถนำวัตถุดิบเข้ามาผลิตเหล็กเพื่อทดแทนการนำเข้าได้ และการมีร่องน้ำลึกตามธรรมชาติทำให้การท่าเรือไม่กระทบต่อสภาพแวดล้อม โดยตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ดำเนินงานมา ไม่จำเป็นต้องขุดลอกเหมือนกรณีมาบตาพุด
กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การสร้างอุตสาหกรรมเหล็กใน อ.บางสะพาน เกิดจากผลการศึกษาของกระทวงอุตสาหกรรมและสหประชาชาติ ซึ่งระบุว่า พื้นที่นี้มีความเหมาะสมในการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินโครงการ เนื่องจากสามารถลดต้นทุนค่าขนส่งสามารถนำวัตถุดิบเข้ามาผลิตเหล็กเพื่อทดแทนการนำเข้าได้ และการมีร่องน้ำลึกตามธรรมชาติทำให้การท่าเรือไม่กระทบต่อสภาพแวดล้อม โดยตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ดำเนินงานมา ไม่จำเป็นต้องขุดลอกเหมือนกรณีมาบตาพุด