นายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ แห่งญี่ปุ่น วันศุกร์(10)ออกมาเตือนว่าประเทศของเขาที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็นอันดับสองของโลก กำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงร้ายแรง หลังจากตลาดหุ้นโตเกียวควงสว่านลงไปสู่จุดต่ำที่สุดในรอบสองทศวรรษ และวิกฤตการเงินก็ส่งผลให้สถาบันการเงินแดนซามูไรล้มคว่ำเป็นแห่งแรกแล้ว
อาโซะกล่าวกับนักข่าวว่าการดิ่งลงของตลาดหุ้นโตเกียว "ได้มาถึงจุดที่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจภาคการผลิตแท้จริง รวมทั้งระบบการระดมทุนของประเทศแล้ว"
เมื่อวานนี้ ดัชนีนิกเคอิของตลาดโตเกียว ทรุดลงไปถึงราว 11% ในช่วงการซื้อขายระหว่างวัน ก่อนที่จะดีดขึ้นมาได้เล็กน้อยและปิดแบบติดลบไป 9.62% ซึ่งนับเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เหตุการณ์ "แบล็ก มันเดย์" ในเดือนตุลาคม ปี 1987 เป็นต้นมา รวมแล้วตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีก็ถูกทุบไปแล้วมากกว่า 24%
รัฐบาลแดนซามูไรยังรีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าการล้มละลายของ ยามาโต ไลฟ์ อินชัวรันส์ ที่มีหนี้สูงถึง 2,700 ล้านดอลลาร์ เป็นสถานการณ์ที่จะไม่ลุกลามบานปลาย
บริษัทประกันชีวิตขนาดกลางแห่งนี้ออกมาระบุว่า ความผันผวนในตลาดการเงินเป็นต้นเหตุทำให้บริษัทต้องปิดตัวลง และเหตุการณ์นี้ก็เท่ากับเป็นการสลายความเชื่อที่ว่า ญี่ปุ่นอาจจะมีภูมิคุ้มกันจนไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินของโลกที่เริ่มในสหรัฐฯ
อาโซะกล่าวกับนักข่าวว่าการดิ่งลงของตลาดหุ้นโตเกียว "ได้มาถึงจุดที่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจภาคการผลิตแท้จริง รวมทั้งระบบการระดมทุนของประเทศแล้ว"
เมื่อวานนี้ ดัชนีนิกเคอิของตลาดโตเกียว ทรุดลงไปถึงราว 11% ในช่วงการซื้อขายระหว่างวัน ก่อนที่จะดีดขึ้นมาได้เล็กน้อยและปิดแบบติดลบไป 9.62% ซึ่งนับเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เหตุการณ์ "แบล็ก มันเดย์" ในเดือนตุลาคม ปี 1987 เป็นต้นมา รวมแล้วตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีก็ถูกทุบไปแล้วมากกว่า 24%
รัฐบาลแดนซามูไรยังรีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าการล้มละลายของ ยามาโต ไลฟ์ อินชัวรันส์ ที่มีหนี้สูงถึง 2,700 ล้านดอลลาร์ เป็นสถานการณ์ที่จะไม่ลุกลามบานปลาย
บริษัทประกันชีวิตขนาดกลางแห่งนี้ออกมาระบุว่า ความผันผวนในตลาดการเงินเป็นต้นเหตุทำให้บริษัทต้องปิดตัวลง และเหตุการณ์นี้ก็เท่ากับเป็นการสลายความเชื่อที่ว่า ญี่ปุ่นอาจจะมีภูมิคุ้มกันจนไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินของโลกที่เริ่มในสหรัฐฯ