นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการประชุมเรื่องของระบบจราจรทั้งหมดในกรุงเทพมหานคร ที่มีผู้อำนวยการขนส่งจราจรทางบกร่วมประชุมว่า ระบบขนส่งสาธารณะภายในกรุงเทพมหานครทั้งหมดที่ กทม.ต้องแบกรับภาระมีกว่า 7 ล้านเที่ยวการเดินทาง คิดเป็นร้อยละ 90 ซึ่ง กทม.จำเป็นต้องทำส่วนเชื่อมต่อการเดินทางต่างๆ ให้ประชาชนเกิดความคล่องตัวที่สุด เพื่อให้ประชาชนลดปริมาณการใช้รถส่วนตัว โดยทางสำนักการจราจรและขนส่งจะเป็นแกนหลักรับผิดชอบโครงการดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสถานีตากสิน และสถานีวงเวียนใหญ่ ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้า และลานวิ่งเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงระบบอาณัติสัญญาณ และระบบข้อมูล ซึ่งคาดว่าภายในต้นเดือนหน้า จะสามารถทดลองการเดินรถได้ และจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ในเดือนเมษายน 2552
สำหรับโครงการรถบีอาร์ที ระยะทาง 15 กิโลเมตร 12 สถานี ขณะนี้ดำเนินการทางด้านโยธาไปร้อยละ 98.07 คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงเดือนมกราคม 2552 หลังจากนั้นจะเริ่มเปิดประกวดราคา ซึ่งคาดว่าจะส่งรถได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม หากไม่ติดปัญหาการเจรจากับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม กทม.จะเร่งประสานให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด
ส่วนความคืบหน้าส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสถานีตากสิน และสถานีวงเวียนใหญ่ ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้า และลานวิ่งเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงระบบอาณัติสัญญาณ และระบบข้อมูล ซึ่งคาดว่าภายในต้นเดือนหน้า จะสามารถทดลองการเดินรถได้ และจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ในเดือนเมษายน 2552
สำหรับโครงการรถบีอาร์ที ระยะทาง 15 กิโลเมตร 12 สถานี ขณะนี้ดำเนินการทางด้านโยธาไปร้อยละ 98.07 คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงเดือนมกราคม 2552 หลังจากนั้นจะเริ่มเปิดประกวดราคา ซึ่งคาดว่าจะส่งรถได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม หากไม่ติดปัญหาการเจรจากับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม กทม.จะเร่งประสานให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด