นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงทีมเศรษฐกิจของ ครม.สมชาย 1 ว่า น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีคนนอกที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ 2 คน คือ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่วนกระทรวงเศรษฐกิจอื่นยังเป็นฝ่ายการเมือง จึงอยากแนะนำรัฐบาลว่าควรเร่งหาทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจไม่ว่ากระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งผลักดันให้ไทยเป็นประเทศที่น่าเข้ามาลงทุน
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ตามรายงานของที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) ระบุว่า ประเทศไทยถือว่าล้าหลังเมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซีย โดยปีนี้ไทยไม่ติด 1 ใน 15 ประเทศที่น่าลงทุนของโลก แพ้ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย เพราะที่ผ่านมาไทยไม่มีกลยุทธ์โดดเด่นที่จะให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนและมีปัญหาการเมือง
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องมีการวางกลยุทธ์ผลักดันให้ไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน โดยระยะเวลาที่เหลือปีนี้จะต้องมีความชัดเจนในเรื่องโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (เมกะโปรเจกต์) ควรจะประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ว่าไทยมีการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน ซึ่งจะเป็นเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลจะต้องผนึกกำลังและสร้างกลยุทธ์จูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน เพื่อจะได้วางกรอบเศรษฐกิจไทยปีหน้าว่าจะเติบโตอย่างไร
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ตามรายงานของที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) ระบุว่า ประเทศไทยถือว่าล้าหลังเมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซีย โดยปีนี้ไทยไม่ติด 1 ใน 15 ประเทศที่น่าลงทุนของโลก แพ้ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย เพราะที่ผ่านมาไทยไม่มีกลยุทธ์โดดเด่นที่จะให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนและมีปัญหาการเมือง
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องมีการวางกลยุทธ์ผลักดันให้ไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน โดยระยะเวลาที่เหลือปีนี้จะต้องมีความชัดเจนในเรื่องโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (เมกะโปรเจกต์) ควรจะประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ว่าไทยมีการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน ซึ่งจะเป็นเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลจะต้องผนึกกำลังและสร้างกลยุทธ์จูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน เพื่อจะได้วางกรอบเศรษฐกิจไทยปีหน้าว่าจะเติบโตอย่างไร