นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พรรคพลังประชาชน
(***) พรรคการเมืองที่เคยร่วมรัฐบาลกันมา 6 พรรค จะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางในการที่จะจัดตั้งรัฐบาลเพื่อดำเนินการให้ลุล่วงไปตามวัตถุประสงค์ของระบอบประชาธิปไตย ภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่ทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขของประเทศเรา
จากที่เมื่อวานผ่านมา ทางพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค รวม 6 พรรค ได้มีการหารือกันในเบื้องต้น โดยมีแกนนำของพรรคพลังประชาชนได้ไปเรียนเชิญพรรคที่ได้ร่วมรัฐบาลกันมา ทั้ง 5 พรรค เพื่อได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรม ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้รับการต้อนรับ และได้รับความกรุณาจากพรรคร่วมทั้ง 5 พรรค ยืนยันที่จะมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ในวันนี้ได้เรียนเชิญทุกๆ พรรค จริงๆ ทุกๆ พรรคได้ตกลงกันว่าจะมาร่วมหารือพร้อมเพรียงกันทั้ง 6 พรรค เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ที่ชัดเจนและแน่นอน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ทราบ อยากจะเรียนว่า ทั้ง 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคมัชฌิมาธิปไตย ท่านอนงค์วรรณ วันนี้ท่านมาเอง พรรคประชาราช ท่านอุไรวรรณ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ก็มาพร้อมกัน ขอโทษ พรรคเพื่อแผ่นดิน มาพร้อมเพรียงกัน เมื่อสักครู่นี้ก่อนที่จะมานั่งตรงนี้ได้ประชุมในห้องรับรองมาครั้งหนึ่งแล้วว่า โดยหลักการ อยากจะเรียนให้ทราบ ว่าโดยหลักการแล้วทั้ง 6 พรรคมีสัตยาบันร่วมกันว่าจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยทั้ง 6 พรรค ตกลงว่าจะให้พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการเสนอชื่อท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเมื่อได้รายชื่อเรียบร้อยแล้ว ทางท่านเลขาธิการพรรคของพรรคพลังประชาชน คือ ท่านรองนายกฯ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี จะได้ประสานกับทุกพรรคเพื่อเรียนให้ทราบ ทุกพรรคจะไปประชุมในพรรคของท่าน ถัดจากนั้นเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อคัดเลือกท่านนายกรัฐมนตรี ตามวิถีทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
ช่วงนี้ผมขออนุญาตให้แต่ละพรรคได้กรุณาพูดปราศรัยกับท่านพี่น้องประชาชน ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ และสื่อมวลชน
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน พรรคมัชฌิมาธิปไตย
พรรคมัชฌิมาธิปไตยเราไม่ยึดถือในตัวบุคคล แต่เรายึดถือในระบอบ ยึดถือในหลักการ นั่นคือประการแรก พรรคมัฌชิมาธิปไตยมีมติร่วมกันว่าจะสนับสนุนในแกนนำ คือพรรคพลังประชาชน ร่วมกันทั้ง 6 พรรค อย่างที่เห็นนี้ ประการที่สอง เราได้ให้เกียรติพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาลนี้ เป็นผู้เสนอนายกรัฐมนตรี ดังนั้น พรรคมัชฌิมาธิปไตยจึงเคารพในสิทธิ์ของพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ ในการที่จะเสนอบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรี
นางอุไรวรรณ เทียนทอง พรรคประชาราช
สำหรับพรรคประชาราชยืนยันในการที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคแกนนำ เป็นผู้ที่จะคัดสรรคนเพื่อจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติคัดเลือกกันในวันพรุ่งนี้ ขอยืนยันในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล พรรคชาติไทย
พรรคชาติไทยตระหนักถึงภาวะที่สำคัญ และจำเป็นในการที่ประเทศจะต้องมีรัฐบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในการบริหารราชการแผ่นดิน ยามที่บ้านเมืองกำลังเผชิญกับปัญหาที่รุมเร้าอยู่ในขณะนี้ จำเป็นต้องมีรัฐบาล เพราะฉะนั้นจากการทำงานร่วมกันมา 7 เดือน พรรคชาติไทยได้หารือกัน ตลอดจนอยู่ในแนวทางและหลักการของระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนประเพณีปฏิบัติในระบบรัฐสภาที่ผ่านมาโดยตลอดว่า เราจะให้เกียรติพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในสภาไปดำเนินการซาวเสียงเพื่อเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน ซึ่งในวันนี้พรรคพลังประชาชนเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมากคงต้องดำเนินการตามนั้น ส่วนตัวบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้พรรคชาติไทยได้ให้ข้อสังเกตเพื่อที่พรรคพลังประชาชนจะนำข้อมูลตรงนี้ไปเป็นส่วนในการพิจารณาว่า บุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นพรรคชาติไทยเคารพในสิทธิของพรรคพลังประชาชน แต่คนที่จะเข้ามานั้น พรรคชาติไทยให้ข้อสังเกตว่า ควรจะเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม และสามารถที่จะคลี่คลายปัญหาของประเทศได้ ซึ่งพรรคพลังประชาชนได้น้อมรับข้อสังเกตตรงนี้ ส่วนการจะตัดสินใจอย่างไร ท้ายที่สุดอยู่ที่พรรคพลังประชาชน
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
ผมในนามของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ขอยืนยันหลักการเดิมที่ผมได้แถลงไว้เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2551 โดยยึดหลักความชอบธรรม นั่นหมายความว่า พรรคที่ได้เสียงข้างมากน่าจะต้องเป็นพรรคที่เป็นแกนกลางในการจัดตั้งรัฐบาล มาถึงวันนี้ผมยืนยันหลักการเดิมเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสถานการณ์บ้านเมืองได้เปลี่ยนไปมาก ต่อสถานการณ์ปัจจุบันผมคิดว่า ทางพรรคพลังประชาชนคงจะทราบดีอยู่แล้ว ผมมีความรู้สึกคล้ายๆ กับท่านสมศักดิ์ พรรคชาติไทย เช่นเดียวกันนะครับว่า คงจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ ใครก็ได้ครับจากพรรคพลังประชาชน
ร.ต.(หญิง)ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี พรรคเพื่อแผ่นดิน
ในนามของพรรคเพื่อแผ่นดิน ตามกติกาว่า 1. พรรคใหญ่นั่นก็คงต้องเป็นคนที่จัดรัฐบาล เราในนามพรรคร่วมขอจับมือร่วมไปด้วย แต่ในเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ เราคิดว่าทางพรรคพลังประชาชนคงคัดสรรคนที่บ้านเมืองยอมรับ และแก้วิกฤตบ้านเมืองได้ในขณะนี้ คิดว่าเย็นนี้คงจะมีการประชุมอีกทีหนึ่งว่า คนที่พรรคพลังประชาชนนำเสนอนั้นเป็นใคร
สมชาย วงศ์สวัสดิ์
ผมขอขอบคุณผู้แทนทั้ง 5 พรรค ที่ได้กรุณาให้ความชัดเจนกับพี่น้องประชาชน สาระสำคัญที่เราแถลงเพื่อกราบเรียนต่อพี่น้องประชาชน ท่านผู้มีเกียรติ และท่านสื่อมวลชน คงมีสาระสำคัญ เท่าที่แถลงไปถือว่าเป็นความชัดเจนที่ทั้ง 6 พรรคจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ขอบคุณทุกท่านครับ
(***) พรรคการเมืองที่เคยร่วมรัฐบาลกันมา 6 พรรค จะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางในการที่จะจัดตั้งรัฐบาลเพื่อดำเนินการให้ลุล่วงไปตามวัตถุประสงค์ของระบอบประชาธิปไตย ภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่ทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขของประเทศเรา
จากที่เมื่อวานผ่านมา ทางพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค รวม 6 พรรค ได้มีการหารือกันในเบื้องต้น โดยมีแกนนำของพรรคพลังประชาชนได้ไปเรียนเชิญพรรคที่ได้ร่วมรัฐบาลกันมา ทั้ง 5 พรรค เพื่อได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรม ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้รับการต้อนรับ และได้รับความกรุณาจากพรรคร่วมทั้ง 5 พรรค ยืนยันที่จะมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ในวันนี้ได้เรียนเชิญทุกๆ พรรค จริงๆ ทุกๆ พรรคได้ตกลงกันว่าจะมาร่วมหารือพร้อมเพรียงกันทั้ง 6 พรรค เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ที่ชัดเจนและแน่นอน เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ทราบ อยากจะเรียนว่า ทั้ง 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคมัชฌิมาธิปไตย ท่านอนงค์วรรณ วันนี้ท่านมาเอง พรรคประชาราช ท่านอุไรวรรณ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ก็มาพร้อมกัน ขอโทษ พรรคเพื่อแผ่นดิน มาพร้อมเพรียงกัน เมื่อสักครู่นี้ก่อนที่จะมานั่งตรงนี้ได้ประชุมในห้องรับรองมาครั้งหนึ่งแล้วว่า โดยหลักการ อยากจะเรียนให้ทราบ ว่าโดยหลักการแล้วทั้ง 6 พรรคมีสัตยาบันร่วมกันว่าจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยทั้ง 6 พรรค ตกลงว่าจะให้พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการเสนอชื่อท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเมื่อได้รายชื่อเรียบร้อยแล้ว ทางท่านเลขาธิการพรรคของพรรคพลังประชาชน คือ ท่านรองนายกฯ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี จะได้ประสานกับทุกพรรคเพื่อเรียนให้ทราบ ทุกพรรคจะไปประชุมในพรรคของท่าน ถัดจากนั้นเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อคัดเลือกท่านนายกรัฐมนตรี ตามวิถีทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
ช่วงนี้ผมขออนุญาตให้แต่ละพรรคได้กรุณาพูดปราศรัยกับท่านพี่น้องประชาชน ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ และสื่อมวลชน
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน พรรคมัชฌิมาธิปไตย
พรรคมัชฌิมาธิปไตยเราไม่ยึดถือในตัวบุคคล แต่เรายึดถือในระบอบ ยึดถือในหลักการ นั่นคือประการแรก พรรคมัฌชิมาธิปไตยมีมติร่วมกันว่าจะสนับสนุนในแกนนำ คือพรรคพลังประชาชน ร่วมกันทั้ง 6 พรรค อย่างที่เห็นนี้ ประการที่สอง เราได้ให้เกียรติพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาลนี้ เป็นผู้เสนอนายกรัฐมนตรี ดังนั้น พรรคมัชฌิมาธิปไตยจึงเคารพในสิทธิ์ของพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคใหญ่ ในการที่จะเสนอบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรี
นางอุไรวรรณ เทียนทอง พรรคประชาราช
สำหรับพรรคประชาราชยืนยันในการที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคแกนนำ เป็นผู้ที่จะคัดสรรคนเพื่อจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติคัดเลือกกันในวันพรุ่งนี้ ขอยืนยันในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล พรรคชาติไทย
พรรคชาติไทยตระหนักถึงภาวะที่สำคัญ และจำเป็นในการที่ประเทศจะต้องมีรัฐบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในการบริหารราชการแผ่นดิน ยามที่บ้านเมืองกำลังเผชิญกับปัญหาที่รุมเร้าอยู่ในขณะนี้ จำเป็นต้องมีรัฐบาล เพราะฉะนั้นจากการทำงานร่วมกันมา 7 เดือน พรรคชาติไทยได้หารือกัน ตลอดจนอยู่ในแนวทางและหลักการของระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนประเพณีปฏิบัติในระบบรัฐสภาที่ผ่านมาโดยตลอดว่า เราจะให้เกียรติพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในสภาไปดำเนินการซาวเสียงเพื่อเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน ซึ่งในวันนี้พรรคพลังประชาชนเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมากคงต้องดำเนินการตามนั้น ส่วนตัวบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้พรรคชาติไทยได้ให้ข้อสังเกตเพื่อที่พรรคพลังประชาชนจะนำข้อมูลตรงนี้ไปเป็นส่วนในการพิจารณาว่า บุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นพรรคชาติไทยเคารพในสิทธิของพรรคพลังประชาชน แต่คนที่จะเข้ามานั้น พรรคชาติไทยให้ข้อสังเกตว่า ควรจะเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม และสามารถที่จะคลี่คลายปัญหาของประเทศได้ ซึ่งพรรคพลังประชาชนได้น้อมรับข้อสังเกตตรงนี้ ส่วนการจะตัดสินใจอย่างไร ท้ายที่สุดอยู่ที่พรรคพลังประชาชน
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
ผมในนามของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ขอยืนยันหลักการเดิมที่ผมได้แถลงไว้เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2551 โดยยึดหลักความชอบธรรม นั่นหมายความว่า พรรคที่ได้เสียงข้างมากน่าจะต้องเป็นพรรคที่เป็นแกนกลางในการจัดตั้งรัฐบาล มาถึงวันนี้ผมยืนยันหลักการเดิมเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสถานการณ์บ้านเมืองได้เปลี่ยนไปมาก ต่อสถานการณ์ปัจจุบันผมคิดว่า ทางพรรคพลังประชาชนคงจะทราบดีอยู่แล้ว ผมมีความรู้สึกคล้ายๆ กับท่านสมศักดิ์ พรรคชาติไทย เช่นเดียวกันนะครับว่า คงจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ ใครก็ได้ครับจากพรรคพลังประชาชน
ร.ต.(หญิง)ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี พรรคเพื่อแผ่นดิน
ในนามของพรรคเพื่อแผ่นดิน ตามกติกาว่า 1. พรรคใหญ่นั่นก็คงต้องเป็นคนที่จัดรัฐบาล เราในนามพรรคร่วมขอจับมือร่วมไปด้วย แต่ในเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ เราคิดว่าทางพรรคพลังประชาชนคงคัดสรรคนที่บ้านเมืองยอมรับ และแก้วิกฤตบ้านเมืองได้ในขณะนี้ คิดว่าเย็นนี้คงจะมีการประชุมอีกทีหนึ่งว่า คนที่พรรคพลังประชาชนนำเสนอนั้นเป็นใคร
สมชาย วงศ์สวัสดิ์
ผมขอขอบคุณผู้แทนทั้ง 5 พรรค ที่ได้กรุณาให้ความชัดเจนกับพี่น้องประชาชน สาระสำคัญที่เราแถลงเพื่อกราบเรียนต่อพี่น้องประชาชน ท่านผู้มีเกียรติ และท่านสื่อมวลชน คงมีสาระสำคัญ เท่าที่แถลงไปถือว่าเป็นความชัดเจนที่ทั้ง 6 พรรคจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ขอบคุณทุกท่านครับ
