ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โจทก์ยื่นฟ้องนางสาวทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการบ้านกาญจนาภิเษก ตกเป็นจำเลยข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2546 จำเลยให้สัมภาษณ์และเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับบิ๊กขี้หลี เพื่อต้องการสื่อถึงนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้ออกมาตีความเรื่องข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่มีพฤติกรรมเชิงชู้สาวกับนักข่าวสาวเป็นเรื่องปกติ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า แม้ถ้อยคำที่ให้สัมภาษณ์และบทความที่เขียน จะไม่ปรากฏตัวบุคคลว่าหมายถึงใคร แต่ก่อนหน้าได้ปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ จึงทำให้ประชาชนที่อ่านข่าวเข้าใจได้ว่าหมายถึงใคร ซึ่งอาจทำให้โจทก์เสียหายหรือถูกหมิ่นประมาท แต่กฎหมายยังมีข้อยกเว้นว่า การติชมเพื่อประโยชน์หรือความเป็นธรรม หรือเป็นการปกป้องผู้หญิง ซึ่งศาลเห็นว่าเป็นความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง
ด้านนางสาวทิชา กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานทำให้ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดกล้าที่จะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี
ส่วนคดีที่ พล.ต.อ.สันต์ ฟ้องแพ่งจำเลยและพวกรวม 17 คน เรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ศาลพิพากษายกฟ้องเช่นกัน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า แม้ถ้อยคำที่ให้สัมภาษณ์และบทความที่เขียน จะไม่ปรากฏตัวบุคคลว่าหมายถึงใคร แต่ก่อนหน้าได้ปรากฏเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ จึงทำให้ประชาชนที่อ่านข่าวเข้าใจได้ว่าหมายถึงใคร ซึ่งอาจทำให้โจทก์เสียหายหรือถูกหมิ่นประมาท แต่กฎหมายยังมีข้อยกเว้นว่า การติชมเพื่อประโยชน์หรือความเป็นธรรม หรือเป็นการปกป้องผู้หญิง ซึ่งศาลเห็นว่าเป็นความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง
ด้านนางสาวทิชา กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานทำให้ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดกล้าที่จะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี
ส่วนคดีที่ พล.ต.อ.สันต์ ฟ้องแพ่งจำเลยและพวกรวม 17 คน เรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ศาลพิพากษายกฟ้องเช่นกัน