พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เปิดเผยว่า ทางตำรวจสันติบาลได้ตรวจสอบอาวุธปืนขนาดต่างๆ และเครื่องกระสุน ที่อยู่ภายในห้องทำงานชั้น 2 ทำเนียบรัฐบาล หลังจากพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต นำออกมาแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอาวุธปืนหายไป 11 กระบอก ซึ่งเป็นปืนสั้นลูกโม่ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก ปืนอินแกรมโอโตเมติก ขนาด 9 มม.จำนวน 10 กระบอก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อที่จะเข้าไปตรวจสอบว่าอาวุธปืนดังกล่าวหายไปหรือตกอยู่ในทำเนียบรัฐบาลระหว่างการขนย้าย หรือมีใครเอาไปทิ้ง และสอบถามความเป็นไปได้ในการขออาวุธปืนคืน หากไม่มีเจตนาจะนำปืนไป ซึ่งเชื่อว่าทางแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ คงไม่เห็นด้วยแน่นอนที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพราะตามกฎหมายแล้วกรณีนี้ถือได้ว่าเป็นการปล้นทรัพย์ไป โดยใช้กำลังเข้าไปข่มขู่กดดัน ทางตำรวจสันติบาลได้มีการดำเนินการแจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต แล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) เรื่องนี้ถือว่าเป็นคดีอาญา
ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวต่อว่า อาวุธปืนดังกล่าวเป็นอาวุธสงคราม คนทั่วไปไม่สามารถครอบครองได้ อาวุธเก็บไว้ในห้องดีๆ อาวุธปืนไม่ใช่ของเล่น เข้าไปเอามาทำไม แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์หรือไม่ และยังมากล่าวหาว่าเป็นการเตรียมไว้ทำร้ายประชาชน
ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวต่อว่า อาวุธปืนดังกล่าวเป็นอาวุธสงคราม คนทั่วไปไม่สามารถครอบครองได้ อาวุธเก็บไว้ในห้องดีๆ อาวุธปืนไม่ใช่ของเล่น เข้าไปเอามาทำไม แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์หรือไม่ และยังมากล่าวหาว่าเป็นการเตรียมไว้ทำร้ายประชาชน