การ์ดพันธมิตรฯ ตรวจพื้นที่รอบทำเนียบ พบชาย 38 คนอ้างตัวเป็นตำรวจสันติบาลอยู่ในอาคาร รปภ. จึงเจรจาให้ออกจากพื้นที่พร้อมเข้าตรวจ พบปืนเอ็ม 16 และปืน HK พร้อมกระสุนอีกเพียบ จึงรีบเข้าแจ้งความแสดงความบริสุทธิ์ใจ
วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 05.00 น. เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ อายุ 55 ปี ตัวแทนกองทัพธรรม และนายกิตติชัย ไสสะอาด อายุ 45 ปี หัวหน้าการ์ดพันธมิตร ด้านประตู 4 ภายในทำเนียบรัฐบาล เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.เอกพล ทวิวงศ์ชัยกุล พงส.(สบ.2) สน.ดุสิต ว่าพบอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนจำนวนมากภายในชั้น 2 ของอาคารฝ่ายปฏิบัติการ รปภ.ทำเนียบรัฐบาล ด้านประตู 4 ถนนพิษณุโลก ภายในทำเนียบรัฐบาล
เรือตรีแซมดิน กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ให้เข้าแจ้งความ เนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น. ขณะที่การ์ดพันธมิตรฯ กำลังสำรวจความปลอดภัยและความเรียบร้อยภายในทำเนียบรัฐบาล เมื่อมาถึงอาคารดังกล่าวพบชายจำนวน 38 คนแต่งกายสวมเสื้อสีเหลือง พร้อมอ้างว่าเป็นตำรวจสันติบาล จึงเจรจาขออยู่ให้ออกจากอาคาร และเขาตรวจสอบด้านใน โดยที่ชั้น 2 ของอาคารพบอาวุธปืนสงครามและกระสุนปืนจำนวนมาก ประกอบด้วยปืนเอ็ม 16 จำนวน 17 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 3 ลังๆ ละ 2,000 นัด รวม 6,000 นัด ปืนเอชเค 33 จำนวน 13 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 440 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 กล่องใหญ่ รวม 2,400 นัด และไฟฉาย จำนวน 13 อัน ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นปืนที่มีทะเบียน
เรือตรีแซมดิน กล่าต่อว่า การเข้าแจ้งความครั้งนี้เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าอาวุธที่พบไม่ได้เป็นของกลุ่มพันธมิตรฯ และจะให้ตำรวจ สน.ดุสิต เข้าตรวจสอบและยึดปืนและกระสุนทั้งหมดไว้ และประสานตำรวจสันติบาลเข้าตรวจสอบและนำหลักฐานมาแสดงว่าเป็นของตำรวจสันติบาลจริงหรือไม่
ต่อมา พ.ต.ต.ทรงชัย เทพสาร หัวหน้าตำรวจสันติบาล ประจำทำเนียบรัฐบาล เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้ง เรื่องอาวุธปืนที่เก็บอยู่ในคลัง พร้อมให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่า ที่เข้าแจ้งความเพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เรื่องปืนที่อยู่ในคลัง จำนวนดังกล่าว แต่ที่พันธมิตรแจ้งจำนวนปืนนั้นยังขาดปืนสั้นขนาด .38 อีก 150 กระบอก เชื่อว่าพันธมิตรฯ น่าจะยังไม่พบปืนดังกล่า จึงไม่ได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวน แต่ตนจะยังไม่นำกำลังตำรวจสันติบาล เข้าตรวจสอบ เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย เกรงว่าจะกระทบกระทั่งกับกลุ่มพันธมิตรฯ
พ.ต.ต.ทรงชัย กล่าวต่อว่า ปืนที่พบเป็นปืนที่ใช้ปฏิบัติงานดูแลทำเนียบอยู่แล้ว แต่เมื่อกลุ่มพันธมิตรเข้ายึดทำเนียบเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงสั่งให้ทั้งหมดปลดอาวุธและนำมาเก็บที่อาคารดังกล่าว และให้ตำรวจทั้งหมด สวมเสื้อเหืองเพื่อดูกลมกลืน แต่ที่พันธมิตรเข้าไปพบนั้นเชื่อว่าขณะที่ถูกผลักดันออกมา ตำรวจที่ดูแลอยู่น่าจะลืมล็อคประตู
วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 05.00 น. เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ อายุ 55 ปี ตัวแทนกองทัพธรรม และนายกิตติชัย ไสสะอาด อายุ 45 ปี หัวหน้าการ์ดพันธมิตร ด้านประตู 4 ภายในทำเนียบรัฐบาล เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.เอกพล ทวิวงศ์ชัยกุล พงส.(สบ.2) สน.ดุสิต ว่าพบอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนจำนวนมากภายในชั้น 2 ของอาคารฝ่ายปฏิบัติการ รปภ.ทำเนียบรัฐบาล ด้านประตู 4 ถนนพิษณุโลก ภายในทำเนียบรัฐบาล
เรือตรีแซมดิน กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ให้เข้าแจ้งความ เนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น. ขณะที่การ์ดพันธมิตรฯ กำลังสำรวจความปลอดภัยและความเรียบร้อยภายในทำเนียบรัฐบาล เมื่อมาถึงอาคารดังกล่าวพบชายจำนวน 38 คนแต่งกายสวมเสื้อสีเหลือง พร้อมอ้างว่าเป็นตำรวจสันติบาล จึงเจรจาขออยู่ให้ออกจากอาคาร และเขาตรวจสอบด้านใน โดยที่ชั้น 2 ของอาคารพบอาวุธปืนสงครามและกระสุนปืนจำนวนมาก ประกอบด้วยปืนเอ็ม 16 จำนวน 17 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 3 ลังๆ ละ 2,000 นัด รวม 6,000 นัด ปืนเอชเค 33 จำนวน 13 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 440 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 กล่องใหญ่ รวม 2,400 นัด และไฟฉาย จำนวน 13 อัน ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นปืนที่มีทะเบียน
เรือตรีแซมดิน กล่าต่อว่า การเข้าแจ้งความครั้งนี้เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าอาวุธที่พบไม่ได้เป็นของกลุ่มพันธมิตรฯ และจะให้ตำรวจ สน.ดุสิต เข้าตรวจสอบและยึดปืนและกระสุนทั้งหมดไว้ และประสานตำรวจสันติบาลเข้าตรวจสอบและนำหลักฐานมาแสดงว่าเป็นของตำรวจสันติบาลจริงหรือไม่
ต่อมา พ.ต.ต.ทรงชัย เทพสาร หัวหน้าตำรวจสันติบาล ประจำทำเนียบรัฐบาล เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้ง เรื่องอาวุธปืนที่เก็บอยู่ในคลัง พร้อมให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่า ที่เข้าแจ้งความเพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เรื่องปืนที่อยู่ในคลัง จำนวนดังกล่าว แต่ที่พันธมิตรแจ้งจำนวนปืนนั้นยังขาดปืนสั้นขนาด .38 อีก 150 กระบอก เชื่อว่าพันธมิตรฯ น่าจะยังไม่พบปืนดังกล่า จึงไม่ได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวน แต่ตนจะยังไม่นำกำลังตำรวจสันติบาล เข้าตรวจสอบ เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย เกรงว่าจะกระทบกระทั่งกับกลุ่มพันธมิตรฯ
พ.ต.ต.ทรงชัย กล่าวต่อว่า ปืนที่พบเป็นปืนที่ใช้ปฏิบัติงานดูแลทำเนียบอยู่แล้ว แต่เมื่อกลุ่มพันธมิตรเข้ายึดทำเนียบเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงสั่งให้ทั้งหมดปลดอาวุธและนำมาเก็บที่อาคารดังกล่าว และให้ตำรวจทั้งหมด สวมเสื้อเหืองเพื่อดูกลมกลืน แต่ที่พันธมิตรเข้าไปพบนั้นเชื่อว่าขณะที่ถูกผลักดันออกมา ตำรวจที่ดูแลอยู่น่าจะลืมล็อคประตู
