นายกรัฐมนตรียกปัญหาบุกยึดทำเนียบของพันธมิตรไปพูดคุยในที่ประชุม ก.ตร. และไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่อ โดยหลังประชุมเสร็จเผ่นแนบทันที ขณะที่ ผบ.ตร.ยันตำรวจต้องยึดกฎหมายและทำตามคำสั่งศาล
วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) โดยใช้เวลาร่วมประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ได้เดินทางกลับในทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมลชนที่รอทำข่าว โดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เดินทางมาส่งที่รถ
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวถึงการประชุม ก.ตร.ว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยเรื่องการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกันนิดหน่อย ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วํฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดูแล ส่วนกรณีที่มีการออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของศาล เมื่อศาลแพ่งได้มีวินิจฉัยให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากทำเนียบรัฐบาลทางตำรวจก็ได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบแล้วแต่ผู้ชุมนุมก็ยังไม่ออกจากทำเนียบรัฐบาล ตำรวจก็ต้องแจ้งให้ศาลทราบก่อน ซึ่งศาลจะให้ใครมาแจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบอีกที นั้นยังไม่ทราบว่าจะเป็นใครอาจเป็นตำรวจหรือพนักงานของที่ศาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจสันติบาลซึ่งรักษาการณ์อยู่ภายในทำเนียบถูกกลุ่มผู้ชุมนุมปิดกั้นไม่ให้ส่งข้าวส่งน้ำนั้น ตำรวจจะทำอย่างไร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ก็พยายามดูแลในเรื่องนี้ โดยมีการประสานงานกับกลุ่มผู้ชุมนุม คิดว่าก็จะเปิดทางให้ส่งข้าวส่งน้ำได้
ผู้สื่อข่าวยังถามอีกว่า การที่ตำรวจยังไม่จับกุมแกนนำพันธมิตรฯ เป็นการให้อภิสิทธิ์หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของการเมือง ตำรวจต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งจากนี้ศาลจะเป็นผู้ดูแลแล้ว
ต่อข้อถามที่ว่า มีการเตรียมล้อรถ และเชื้อเพลิงในการก่อเหตุ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า คิดว่าอย่าคิดไปไกลเกิน ผู้ชุมนุมคงไม่ทำ ส่วนเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายมีนายตำรวจระดับ พล.ต.ท.36 นาย และ พล.ต.ต.142 นาย ซึ่งผลคงต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ ก่อน
ด้าน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. แถลงผลการประชุม ก.ตร.ว่าวาระการประชุม ก.ตร.ในวันนี้ มี 2 เรื่อง คือ เรื่องการพิจารณาขอความเห็นชอบในการร่างระเบียบการขอกำหนดอัตราเงินเพิ่มประจำตำแหน่งพนักงานสอบสวน ซึ่งมีงานเสนออัตราเงินเพิ่ม เช่น สบ.1 จำนวน 12,000 บาท/เดือน สบ.2 จำนวน 14,400 บาท/เดือน สบ.3 จำนวน 17,300 บาท/เดือน สบ.4 จำนวน 20,800 บาท/เดือน สบ.5 จำนวน 25,000 บาท/เดือน สบ.6 จำนวน 30,000 บาท/เดือน โดยการปรับเงินพนักงานสอบสวนเพิ่มครั้งนี้เพื่อให้ใกล้เคียงกับพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ
“ขั้นต่อไปก็จะมีการตกลงกับรัฐบาลเนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ประมาณ 1,300ล้านบาทต่อปี เนื่องจากมีพนักงานสอบสวนจำนวนกว่า 7 พันคน ซึ่งต้องดูในปีงบประมาณ 2552 ว่ารัฐบาลจะมีให้หรือไม่ หากยังไม่มีก็จะทำการขออีกครั้งในประงบประมาณ 2553” พล.ต.ท.วัชรพล กล่าว
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ 2 ก.ตร.ได้ให้ความเห็นชอบในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจจำนวน 178 นาย เป็นระดับรอง ผบ.ตร.1 ราย เลื่อนขึ้นเป้นระดับ รอง ผบ.ตร.1 นาย เลื่อขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.5 นาย ผบช.หมุนในตำแหน่ง 10 นาย เลื่อนขึ้น ผบช. 19นาย รอง ผบช. หมุนเวียนในตำแหน่ง 12 นาย เลื่อนขึ้น รอง ผบช.27 นาย ผบก. หมุนเวียน 51 นาย เลื่อนขึ้น ผบก.52 นาย การดำเนินการนายกรัฐมนตรี จะนำรายชื่อที่ ก.ตร.เห็นชอบ นำขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
สำหรับเรื่องกลุ่มผู้ชุมนุมที่เข้าปิดล้อมสนามบินต่างๆ พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า เรื่องนี้ก็มีการเตรียมพร้อม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาข่าวทั้งตำรวจพื้นที่ และตำรวจสันติบาล ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลก็มีการเตรียมการรับมืออยู่แล้ว มีการประชุมประเมินสถานการณ์ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลทุกวัน หัวใจสำคัญคือ รัฐบาล และตำรวจต้องใช้ความละมุนละม่อม ซึ่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ให้ดำเนินการทุกอย่างไปตามกระบวนการยุติธรรม เน้นการเจรจาไม่ใช้ความรุนแรง และมั่นใจว่าเหตุการณ์น่าจะคลี่คลายในที่สุด