วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับ พ.อ.ติม ซาเรด รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย ของกัมพูชา และผู้เกี่ยวข้อง ที่โรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว วันนี้ เพื่อติดตามจับกุมนายวัฒนา อัศวเหม ในฝั่งกัมพูชา หลังถูกศาลออกหมายจับข้อหาไม่มาฟังคำพิพากษาคดีจัดซื้อที่ดินสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวภายหลังการประชุมว่า การหารือเป็นไปอย่างมิตรภาพ โดยฝ่ายกัมพูชายืนยันว่าไม่พบนายวัฒนา อีกทั้งขอให้ไทยส่งเอกสารคำตัดสินของศาลมาให้กัมพูชา เพื่อดำเนินการตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งไทยกับกัมพูชามีสนธิสัญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนร่วมกัน แต่เรื่องนี้ศาลยังไม่ได้พิพากษา จึงไม่สามารถดำเนินการเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ตามสนธิสัญญาฯ รวมถึงการส่งเอกสารคำพิพากษาให้กัมพูชา ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เช่นกัน เพราะศาลยังไม่ได้พิพากษาคดี
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ในชั้นนี้เป็นเพียงนายวัฒนา หลบหนีหมายจับของศาลกรณีไม่ได้มาฟังคำพิพากษา อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาระบุว่า หากพบนายวัฒนา จะดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมืองก่อน เพราะไม่พบหนังสืออนุญาตให้เข้ากัมพูชา และขณะนี้ไทยได้นำภาพถ่ายของนายวัฒนา ให้กับกัมพูชาช่วยตามหาอีกทางหนึ่ง แต่ข้อมูลที่ได้ล่าสุดวันที่ 11 กรกฎาคม จึงเชื่อมั่นว่านายวัฒนาจะอยู่ในกรุงพนมเปญของกัมพูชา
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวภายหลังการประชุมว่า การหารือเป็นไปอย่างมิตรภาพ โดยฝ่ายกัมพูชายืนยันว่าไม่พบนายวัฒนา อีกทั้งขอให้ไทยส่งเอกสารคำตัดสินของศาลมาให้กัมพูชา เพื่อดำเนินการตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งไทยกับกัมพูชามีสนธิสัญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนร่วมกัน แต่เรื่องนี้ศาลยังไม่ได้พิพากษา จึงไม่สามารถดำเนินการเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ตามสนธิสัญญาฯ รวมถึงการส่งเอกสารคำพิพากษาให้กัมพูชา ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เช่นกัน เพราะศาลยังไม่ได้พิพากษาคดี
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ในชั้นนี้เป็นเพียงนายวัฒนา หลบหนีหมายจับของศาลกรณีไม่ได้มาฟังคำพิพากษา อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาระบุว่า หากพบนายวัฒนา จะดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมืองก่อน เพราะไม่พบหนังสืออนุญาตให้เข้ากัมพูชา และขณะนี้ไทยได้นำภาพถ่ายของนายวัฒนา ให้กับกัมพูชาช่วยตามหาอีกทางหนึ่ง แต่ข้อมูลที่ได้ล่าสุดวันที่ 11 กรกฎาคม จึงเชื่อมั่นว่านายวัฒนาจะอยู่ในกรุงพนมเปญของกัมพูชา
