ในการสัมมนาทางวิชาการประจำปี 2551 ของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในหัวข้อ สถานการณ์พลังงานโลก และการปรับตัวของไทย นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่แพงในขณะนี้ถือเป็นวิกฤตราคาน้ำมันรอบที่ 3 ซึ่งเชื่อว่าในอีก 1 - 2 ปีข้างหน้า ราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากสหรัฐฯ ลดการนำเข้าน้ำมัน และการใช้น้ำมันในจีนน้อยลง รวมถึงจะมีกำลังการผลิตจากประเทศในกลุ่มโอเปก และนอกโอเปกมากขึ้น แต่การเก็งกำไรจากกองทุน และความอ่อนไหวในกำลังการผลิตจากภัยธรรมชาติยังถือเป็นปัจจัยเสี่ยง แม้ว่าราคาน้ำมันยังแพงขึ้นต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองเหลือใช้ประมาณ 40 ปี ก๊าซธรรมชาติ เหลือใช้อีก 60 - 70 ปี ส่วนถ่านหินเหลือมากที่สุด คือ 150 ปี ดังนั้นในช่วง 10 - 20 ปี ข้างหน้าจะยังไม่เกิดภาวะขาดแคลนพลังงาน
ด้านนายอัมมาร์ สยามวาลา รักษาการประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า การที่ทั่วโลกใช้ผลิตผลทางการเกษตรเพื่อเป็นพลังงานทดแทน ทำให้ราคาพืชผลปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวโพด ข้าวสาลี และข้าว อย่างไรก็ตามการใช้พืชทางการเกษตรมาผลิตเอทานอล จะคุ้มทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาความสำคัญระหว่างพลังงาน ราคาพืชผลในระยะยาว และประสิทธิภาพในการแปรรูปพืชพลังงาน ส่วนแนวทางเศรษฐศาสตร์นั้น จะถือว่าไม่คุ้มค่า เนื่องจากมีต้นทุนการผลิต แต่ก็ถือเป็นทางเลือกพลังงานทดแทนที่เป็นพลังงานสะอาด
ด้านนายอัมมาร์ สยามวาลา รักษาการประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า การที่ทั่วโลกใช้ผลิตผลทางการเกษตรเพื่อเป็นพลังงานทดแทน ทำให้ราคาพืชผลปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวโพด ข้าวสาลี และข้าว อย่างไรก็ตามการใช้พืชทางการเกษตรมาผลิตเอทานอล จะคุ้มทุนหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาความสำคัญระหว่างพลังงาน ราคาพืชผลในระยะยาว และประสิทธิภาพในการแปรรูปพืชพลังงาน ส่วนแนวทางเศรษฐศาสตร์นั้น จะถือว่าไม่คุ้มค่า เนื่องจากมีต้นทุนการผลิต แต่ก็ถือเป็นทางเลือกพลังงานทดแทนที่เป็นพลังงานสะอาด