พล.อ.เตีย บัญห์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวถึงข้อกังวลของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ห่วงว่าอาจเกิดเหตุรุนแรงในกัมพูชา อันเป็นผลมาจากที่ศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามใช้ประโยชน์จากแถลงการณ์ร่วมที่สนับสนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และได้ขอให้สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ช่วยดูแลคนไทยในกัมพูชา ว่า สถานการณ์ในกัมพูชาไม่ได้มีเหตุรุนแรง และสถานการณ์ทางการเมืองของกัมพูชาไม่เหมือนไทย ไม่มีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้น ขณะที่ไทยมีการใช้เรื่องปราสาทเขาพระวิหารเป็นประเด็นการเมืองจากฝ่ายการเมือง ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ
พล.อ.เตีย บัญห์ ซึ่งอยู่ระหว่างการหาเสียงที่ จ.เสียมราฐ มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายแรงอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2546 ที่มีการเผาสถานทูตไทย และทำร้ายคนไทย พร้อมย้ำว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นอีกแน่นอน เพราะทางกัมพูชาได้บทเรียนจากการเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด และจะไม่เกิดเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นอย่างที่มีความกังวลต่อสถานการณ์การเลือกตั้งในกัมพูชา ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ เพราะพรรคประชาชนกัมพูชาจะชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากอย่างแน่นอน
ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในกรุงพนมเปญ ฝ่ายความมั่นคงของไทยรายงานว่า ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ และยังไม่มีอะไรรุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล ขณะที่สื่อมวลชนที่รัฐบาลกัมพูชาควบคุมไม่ได้ มีการหยิบยกเรื่องปราสาทเขาพระวิหารมาโจมตีไทย เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2546 นอกจากนี้ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า สถานการณ์จะขยายตัวรุนแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาลของสมเด็จฮุน เซน เนื่องจากการชุมนุมประท้วงของรัฐบาลกัมพูชา จะต้องได้รับการอนุญาตจากรัฐบาลก่อน และเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น
นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมแถลงข่าวต่อท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อคำสั่งของศาลปกครองในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวานนี้ ให้ทางกระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง
ขระที่ พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เตรียมแถลงข่าวเช่นกัน เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหาร และการทำงานของฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า ปล่อยปละละเลยจนชาวกัมพูชาได้สร้างสิ่งปลูกสร้างล้ำเขตแดนไทย
พล.อ.เตีย บัญห์ ซึ่งอยู่ระหว่างการหาเสียงที่ จ.เสียมราฐ มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายแรงอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2546 ที่มีการเผาสถานทูตไทย และทำร้ายคนไทย พร้อมย้ำว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นอีกแน่นอน เพราะทางกัมพูชาได้บทเรียนจากการเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด และจะไม่เกิดเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นอย่างที่มีความกังวลต่อสถานการณ์การเลือกตั้งในกัมพูชา ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ เพราะพรรคประชาชนกัมพูชาจะชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากอย่างแน่นอน
ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในกรุงพนมเปญ ฝ่ายความมั่นคงของไทยรายงานว่า ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ และยังไม่มีอะไรรุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล ขณะที่สื่อมวลชนที่รัฐบาลกัมพูชาควบคุมไม่ได้ มีการหยิบยกเรื่องปราสาทเขาพระวิหารมาโจมตีไทย เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2546 นอกจากนี้ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า สถานการณ์จะขยายตัวรุนแรงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาลของสมเด็จฮุน เซน เนื่องจากการชุมนุมประท้วงของรัฐบาลกัมพูชา จะต้องได้รับการอนุญาตจากรัฐบาลก่อน และเชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น
นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมแถลงข่าวต่อท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อคำสั่งของศาลปกครองในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวานนี้ ให้ทางกระทรวงการต่างประเทศปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง
ขระที่ พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เตรียมแถลงข่าวเช่นกัน เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหาร และการทำงานของฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า ปล่อยปละละเลยจนชาวกัมพูชาได้สร้างสิ่งปลูกสร้างล้ำเขตแดนไทย