xs
xsm
sm
md
lg

สื่อจีนเผย “กัมพูชา” ยุคใหม่อ้าแขนรับทุน “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานชิ้นดังกล่าวในนิตยสารเอเชียวีก (亚洲周刊) ฉบับวันที่ 8 มิถุนายน 2551
ผู้จัดการออนไลน์ - นิตยสารเอเชียวีก ของจีน ตีแผ่สถานการณ์ในกัมพูชาที่กำลังเปลี่ยนแนวคิดไปเปิดรับทุนจากกลุ่ม “ทักษิณ ชินวัตร” ระบุชัดทั้งสองฝ่ายหวังผลประโยชน์วิน-วิน ทางการเมืองและทางธุรกิจ ตอกย้ำสันนิษฐานสื่อไทย รัฐบาลไทยเอี่ยวแลกประโยชน์กับกัมพูชา เรื่องเขาพระวิหาร-แหล่งก๊าซ

มีรายงานระบุว่า นิตยสารเอเชียวีก (亚洲周刊) ของจีนฉบับล่าสุดวันที่ 8 มิถุนายน 2551 ได้ตีแผ่รายงานการเข้าไปมีผลประโยชน์ในธุรกิจในจังหวัดเกาะกง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย โดยผ่านทางสมเด็จฮุนเซน ชี้ ก่อนการเลือกตั้งในเดือน ก.ค.ทุนต่างชาติต่างวิ่งเข้าหารัฐบาลสมเด็จฮุนเซน หวัง วิน-วิน ได้ผลประโยชน์ทั้งทางการเมืองและทางธุรกิจ พร้อมกัน

รายงานชิ้นดังกล่าวถูกตีพิมพ์ในหน้าที่ 6 ของนิตยสารฉบับดังกล่าว โดยระบุหัวข้อรายงานว่า “แนวคิดใหม่ของกัมพูชา ยินดีรับทุนทักษิณ” โดยมีเนื้อหาดังนี้

“สำหรับประเทศกัมพูชาที่เคยผ่านภัยสงครามมาอย่างสาหัส ปัจจุบันภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซน ได้ค่อยๆ ฟื้นฟูบาดแผลในอดีต และเริ่มต้นก้าวเข้าสู่เส้นทางของการพัฒนาประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลของสมเด็จฮุนเซนเองมักจะปล่อยข่าวการร่วมมือกับนานาประเทศออกมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ใกล้จะเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหญ่ ทุนจากต่างชาติที่เล็งเห็นโอกาสในกัมพูชาต่างก็จะส่งความสนับสนุนให้กับรัฐบาลสมเด็จฮุนเซนกันถ้วนหน้า ซึ่งความสำเร็จในด้านเศรษฐกิจที่ปรากฏ คงจะช่วยให้สมเด็จฮุนเซนสามารถเอาชนะการเลือกตั้งได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ยุคการปกครองในอดีต กัมพูชาเคยใช้การปกครองที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จและโหดเหี้ยมทารุณ ในด้านเศรษฐกิจก็ละทิ้งระบบตลาด ยกเลิกสกุลเงิน แม้ว่าภายหลังจะถูกล้มล้างไปแล้ว ทว่าการต่อสู้นองเลือดของกลุ่มต่างๆ ภายในประเทศยังคงดำเนินต่อไป จนส่งผลให้ต่างชาติโดยเฉพาะนักลงทุนต้องถอยหนี กระทั่งในเดือนกรกฎาคมปี 2546 (ค.ศ.2003) พรรคประชาชนกัมพูชาของสมเด็จฮุนเซนชนะการเลือกตั้งทั่วไป แต่ไม่สามารถได้คะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 จึงไม่สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวจนเกิดเป็นสุญญากาศทางการเมืองในกัมพูชาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี ค่อยมีการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคฟุนซินเปกที่เป็นพรรคอันดับ 2 ทำให้กัมพูชาเข้าสู่ยุคของสมเด็จฮุนเซน และทำให้สถานการณ์ค่อยๆ สงบ จนก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจเสรีมากยิ่งขึ้น

ย้อนกลับไปในการเลือกตั้งใหญ่ในกัมพูชา เมื่อ ปี 2536 (ค.ศ.1993) มีพรรคการเมืองที่เข้าร่วมแข่งขันเลือกตั้งทั้งสิ้นกว่า 40 พรรค ในปี 2541 (ค.ศ.1998) มีทั้งสิ้น 39 พรรค กระทั่งปี 2546 (ค.ศ.2003) เหลืออยู่ 23 พรรคส่วนการเลือกตั้งในปีนี้ เหลือพรรคการเมืองที่เข้าร่วมชิงชัยเพียงประมาณ 10 พรรคเท่านั้น มีการล้างไพ่พรรคการเมืองใหม่ มีการจัดกลุ่มรวมกลุ่มกันใหม่ ที่เป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าการเมืองเริ่มที่จะมีความมั่นคง ภาพลักษณ์ของความวุ่นวาย การชิงความเป็นใหญ่ การฉกฉวยโอกาสจากสถานการณ์คงยากที่จะปรากฏขึ้น

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเองก็ได้เล็งเห็นโอกาสมหาศาลที่ซ่อนอยู่ในกัมพูชา ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็เคยเดินทางไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการและมีข้อตกลงความเข้าใจร่วมในด้านของพื้นที่ทับซ้อนสัมปทานก๊าซในอ่าวไทย การเปิดกว้างชายฝั่ง และมีการให้กัมพูชากู้ยืมเงินในอัตราพิเศษเป็นต้น ทว่า ในตอนนี้ ทักษิณยิ่งมีแผนการที่ฮึกเหิมยิ่งกว่านั้น ด้วยการจะนำพากลุ่มนักลงทุนชาวไทยไปสร้างเมืองเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ในจังหวัดเกาะกงที่มีทั้งกาสิโน สถานบันเทิงครบวงจร รวมไปถึงย่านการเงิน ที่พัก โรงพยาบาลและสาธารณูปโภคอื่นๆ นอกจากนั้น ยังมีการลงทุนในด้านท่าเรือ แรงอู่ซ่อมเรือ ต่อกรณีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นในมุมของเศรษฐกิจ หรือความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของ 2 ประเทศก็ถือว่าเป็นโครงการที่วิน-วินทั้งคู่

แผนการพัฒนาเมืองใหม่ของกัมพูชา มีลักษณะคล้ายกับนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีนในช่วงต้นของการปฏิรูปเปิดประเทศ ต่อภายนอกถือเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการเปิดกว้างอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามา ต่อภายในก็สามารถที่จะมีผลด้านการสร้างแม่แบบ และทำลายแนวความคิดแบบเก่า นักลงทุนต่างชาติที่เล็งเห็นโอกาสในกัมพูชาอย่างนายโรเจอร์ส นักลงทุนนานาชาติที่เป็นที่ปรึกษาให้กับกองทุนเพื่อการลงทุนของกัมพูชากับกองทุนนานาชาติอย่างเลพพาร์ด แคปิตอลก็ได้วางแผนที่จะลงทุนมากถึง 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯขึ้นไป

กัมพูชาแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ ที่ประชากรยังยากจนอยู่ ทว่านายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซนกลับมีแผนการที่จะผ่าตัดปฏิรูปครั้งใหญ่ นับตั้งแต่ปี 2547 (ค.ศ.2004) เป็นต้นมา เศรษฐกิจของกัมพูชาก็เติบโตในอัตราเกือบ 2 หลักมาโดยตลอด ในปีที่ผ่านมาก็มีอัตราเติบโตเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 9.7 ส่วนในปีนี้ก็คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 7.2 และด้วยผลงานทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ก็คงจะช่วยให้สมเด็จฮุนเซนสามารถชนะเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคมนี้ได้อย่างราบรื่น”

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนไทยหลายแขนงได้ตั้งข้อสังเกตถึงการบริหารประเทศของรัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นตัวแทนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า อาจกำลังจะแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับทางผู้นำของกัมพูชาอย่างลับๆ หรือไม่ โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวพันกับอธิปไตยของชาติไทย ไม่ว่าจะกรณีการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ที่อาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียดินแดน และรวมถึงกรณีแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น