การอภิปรายพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 เริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขอหารือในที่ประชุมเรื่องนายจตุพร พรหมพันธุ์ พูดพาดพิง ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้ประท้วงจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ต่อมานายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ไม่ยุติธรรมในการอภิปรายเมื่อคืนที่ผ่านมา ด้านนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจพล ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดสุโขทัย กล่าวถึงการตั้งงบประมาณปี 2552 ที่อาจกระทบกรมสรรพกรว่า มีการตั้งเป้าการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งหากไปจัดเก็บจากร้านค้าทั่วไปจะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ดังนั้น ควรจัดเก็บจากธุรกิจโทรคมนาคมที่เลี่ยงการจัดเก็บภาษีจะกระทบน้อยกว่า
จากนั้นนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขึ้นชี้แจงกระแสข่าวการกดดันพรรคร่วมรัฐบาลให้ปรับคณะรัฐมนตรีแลกกับการลงมติไม่รับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 7 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ยืนยันว่า ไม่มีการต่อรองเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยการปรับคณะรัฐมนตรีจะมีขึ้นต่อเมื่อมีความจำเป็นที่มาจากการทำงานไม่ใช่ถูกกดดันตามที่สื่อเสนอ และจากการอภิปรายของนายกรัฐมนตรี ทำให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงว่าอภิปรายไม่ตรงประเด็น ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขอใช้สิทธิ์พาดพิง กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ และกรณีการลงมติวาน
จากนั้นนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขึ้นชี้แจงกระแสข่าวการกดดันพรรคร่วมรัฐบาลให้ปรับคณะรัฐมนตรีแลกกับการลงมติไม่รับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 7 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ยืนยันว่า ไม่มีการต่อรองเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยการปรับคณะรัฐมนตรีจะมีขึ้นต่อเมื่อมีความจำเป็นที่มาจากการทำงานไม่ใช่ถูกกดดันตามที่สื่อเสนอ และจากการอภิปรายของนายกรัฐมนตรี ทำให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงว่าอภิปรายไม่ตรงประเด็น ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขอใช้สิทธิ์พาดพิง กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ และกรณีการลงมติวาน
