“อภิสิทธิ์” นำทีม เชือดซ้ำ รบ.หุ่นเชิด “ชวน-สุเทพ” ร่วมวงยำ “เป็ดเหลิม” พุ่งเป้าบริหารงานล้มเหลว สร้างวิกฤตชาติ ทำไทยเสียเขาพระวิหาร รวมถึงประเด็น “เจ๊เพ็ญ” จาบจ้วงเบื้องสูง และ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” รมว.ยุติธรรม เจตนาเช็กบิลทางการเมืองหลายเรื่อง
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ 7 รัฐมนตรี ในวันที่ 24มิ.ย.นี้ พรรคได้กำหนดในรัฐมนตรี (เงา) ที่รับผิดชอบในกระทรวงที่ถูกอภิปราย เป็นแกนนำหลัก ซึ่งการอภิปราย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผู้อภิปราย ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค โดยจะพูดถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่บกพร่องในภาพรวม ส่วนประเด็นปลีกย่อย จะแบ่งเป็นด้านเศรษฐกิจ นำโดย นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กรุงเทพมหานคร ส่วนเรื่องการโยกย้ายข้าราชการของกระทรวงต่างๆ พรรคได้มอบหมายให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้อภิปราย นอกจากนี้ การอภิปรายจะมีการซักถามนายกฯ ในประเด็นปราสาทพระวิหารด้วย โดยพรรคกำหนดให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้อภิปราย
ทั้งนี้ จะมีการหยิบยกประเด็น นายจักภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวโจมตีสถาบัน มาอภิปรายอีกครั้ง โดยผู้อภิปราย คือ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง โดยเหตุผลว่าถือเป็นความผิดโดยตรงของนายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยให้รัฐมนตรีผู้มีทัศนคติที่เป็นอันตรายอยู่ในคณะรัฐมนตรี ส่วนการอภิปราย นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศนั้น โดยประเด็นใหญ่อยู่ที่เรื่องปราสาทพระวิหาร ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้กำหนดบุคคลร่วมอภิปรายจำนวน 6 ราย ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค นายธีระ สลักเพชร ส.ส.ตราด และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา เป็นผู้สรุปในช่วงท้าย
สำหรับการอภิปราย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น พรรคอาจจะใช้รูปแบบเชิงวาทะกรรม ในลักษณะใช้ลูกเล่นของการอภิปราย ซึ่งประเด็นการอภิปรายจะเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่รับทราบ เป็นปัญหาที่มาจากการบริหารงานที่ล้มเหลว เช่น การแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ ทั้งนี้ คาดว่า จะมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ร่วมผู้อภิปรายด้วย
รายงานข่าวกล่าวอีกว่า ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ในส่วนของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม โดยแนวทางการอภิปราย จะพูดถึงเรื่องการบริหารราชการที่บกพร่อง พร้อมทั้งสอบถามความคืบหน้าของคดีการหายตัวของทนายสมชาย นิลไพจิตร คดีนายเจริญ วัดอักษร และคดีการสังหารพระสุพจน์ สุวโจ พระนักอนุรักษ์ ทั้งที่ คดีบุกรุกที่ดินของบริษัทศรีสุบรรณฟาร์มจำกัด ของนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กลับได้รับการพิจารณาก่อน ส่อให้เห็นเจตนาการเอาคืนทางการเมือง
นอกจากนี้ เรื่องการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงยุติธรรมจำนวน 10 คน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อาทิ การย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาเป็นเลขาธิการสำนักงานป้องและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งมีหลักฐานที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเมือง เนื่องจากนายสุนัย เป็นผู้รับผิดชอบคดีสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัว
นอกจากนี้ การอภิปรายจะมีการพูดถึงกรณีที่ดีเอสไอตรวจสอบทรัพย์สินคุณหญิง จารุวรรณ เมฑะกา ผู้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยไม่มีเหตุอันสมควรและเป็นการกระทำที่ขัดต่อหน้าที่ อันมีผลมาจากความไม่พอใจที่ สตง.ตรวจสอบงบประมาณของดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นเรื่องการตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ยังค้างอยู่สภา โดยจะอภิปรายความผิดของนายสมพงษ์ในฐานะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง แต่กลับไม่ให้ความสนใจ ทำให้ขณะนี้ไม่สามารถตั้ง ป.ป.ท.ได้ตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญ 2550 กำหนด