นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินงานการรับรองคุณภาพสถานประกอบการสปาเพื่อสุขภาพ ระหว่าง นายแพทย์ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กับผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และประธานสมาพันธ์สปาไทย โดยในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีนโยบายที่จะพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสถานประกอบการธุรกิจบริการส่งเสริมสุขภาพประเภทสปาของไทยขึ้นสู่ระดับสากล เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ
ขณะนี้สปาของไทยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีสปาที่ผ่านการขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐานประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2546 ทั้งหมด 5,104 แห่ง ประกอบด้วย สปาเพื่อสุขภาพ 1,164 แห่ง นวดเพื่อสุขภาพ 3,230 แห่ง และนวดเพื่อเสริมสวย 710 แห่ง สร้างรายได้ประเทศปีละหลายพันล้านบาทและแนวโน้มเพิ่มขึ้น ล่าสุดในปี 2550 มีผู้ใช้บริการธุรกิจสปาเกือบ 5 ล้านคน ร้อยละ 80 เป็นชาวต่างชาติ สร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับสปาเพื่อสุขภาพที่ผ่านการรับรองจะได้รับเครื่องหมายไทยสปาระดับโลก (Thai World Class Spa) มี 3 ระดับ ได้แก่ ระดับแพลทตินัม (Platinum) ซึ่งเทียบชั้นสปาหรู 5 ดาว ระดับโกลด์ (Gold) และระดับซิลเวอร์ (Silver) มีอายุ 3 ปี ปีแรกนี้จะดำเนินการให้ได้ร้อยละ 50 ของสปาที่ขึ้นทะเบียนแล้ว
ขณะนี้สปาของไทยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีสปาที่ผ่านการขึ้นทะเบียนรับรองมาตรฐานประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2546 ทั้งหมด 5,104 แห่ง ประกอบด้วย สปาเพื่อสุขภาพ 1,164 แห่ง นวดเพื่อสุขภาพ 3,230 แห่ง และนวดเพื่อเสริมสวย 710 แห่ง สร้างรายได้ประเทศปีละหลายพันล้านบาทและแนวโน้มเพิ่มขึ้น ล่าสุดในปี 2550 มีผู้ใช้บริการธุรกิจสปาเกือบ 5 ล้านคน ร้อยละ 80 เป็นชาวต่างชาติ สร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับสปาเพื่อสุขภาพที่ผ่านการรับรองจะได้รับเครื่องหมายไทยสปาระดับโลก (Thai World Class Spa) มี 3 ระดับ ได้แก่ ระดับแพลทตินัม (Platinum) ซึ่งเทียบชั้นสปาหรู 5 ดาว ระดับโกลด์ (Gold) และระดับซิลเวอร์ (Silver) มีอายุ 3 ปี ปีแรกนี้จะดำเนินการให้ได้ร้อยละ 50 ของสปาที่ขึ้นทะเบียนแล้ว
