xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ดัดหลัง "คนหัวหมอ" เล็งเสนอแก้กฎหมาย "ไม่เป่าถือว่าเมา"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แจ้งว่า คณะอนุกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาการแก้ไข พระราชบัญญัติจราจรทางบก โดยมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บช.น. และกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) เข้าให้ข้อมูล เพื่อเตรียมพิจารณาการปรับปรุงเพิ่มเติมกฎหมาย เกี่ยวกับการกำหนดข้อสันนิษฐานกรณีผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์โดยไม่มีเหตุสมควร ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวได้มีการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯมาก่อนหน้านี้เป็นเวลาหลายปี ตั้งแต่ปี 2546 พร้อมกับการพิจารณาเพิ่มโทษผู้ขับขี่ขับรถขณะมึนเมาสุรา ในขณะที่กฎหมายเพิ่มโทษผู้ขับขี่รถขณะเมาสุรา มีผลประกาศใช้ตั้งแต่ 30 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา
ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงเห็นความสำคัญในการป้องกันและแก้ปัญหาอุบัติเหตุจากผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมขับรถขณะเมาสุรา ยังผลักดันการแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบก เพิ่มข้อความ "ในกรณีที่ผู้ขับขี่มีพฤติกรรมอันควรเชื่อได้ว่าฝ่าฝืนขับรถขณะเมาสุรา และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทดสอบ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น"
ในปัจจุบันพบว่าในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการตั้งด่านตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ ยังพบว่ามีผู้ขับขี่บางรายที่ไม่ยินยอมให้ทดสอบโดยดีและมีข้อโต้แย้งทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่มีอุปสรรคมากขึ้น โดยต้องใช้พยานบุคคลและหลักฐานอื่นประกอบในการส่งฟ้องคดี ซึ่งหากมีการแก้ไขกฎหมายจะทำให้ลดข้อโต้แย้งและผู้ขับขี่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น โดยที่ไม่กระทบสิทธิของผู้ขับขี่ที่ขับรถถูกกฎไม่ได้มีพฤติกรรมขับรถในขณะมึนเมาสุรา และเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
ทั้งนี้ การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการทดสอบ วัดปริมาณแอลกอฮอล์โดยให้ผู้ขับขี่เป่าลมหายใจแล้วใช้ เครื่องมือตรวจทดสอบที่ได้มาตรฐาน ปัจจุบันกฎหมายกำหนดโทษของผู้ที่ขับรถในขณะเมาสุรา (ตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่เกิน 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งหากการผลักดันกฎหมายในครั้งนี้สำเร็จจะทำให้ผู้ที่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทดสอบ ก็จะมีโทษเช่นเดียวกันกับผู้ที่ขับรถขณะเมาสุรา
กำลังโหลดความคิดเห็น