นายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้นของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่อัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องในคดีดังกล่าวและคืนสำนวนคดีมาให้ คตส.แล้ว ที่ประชุม คตส. มีมติส่งฟ้องเอง โดยแต่งตั้งทีมทนายความจากสภาทนายความเข้ามาดูแลสำนวนให้นั้น ขณะนี้ได้ร่างสำนวนการฟ้องเสร็จแล้ว ดังนั้น ในการประชุมคตส.วันพรุ่งนี้ (16 มิ.ย.) ตนจะนำสำนวนการส่งฟ้องดังกล่าวเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา หากไม่มีปัญหาจะสามารถยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งได้ทันที
นายบรรเจิด กล่าวว่า นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจตนเอง ครอบครัวและพวกพ้อง จะนำผลสรุปการไต่สวนเกี่ยวกับคดีอาญา เสนอเข้าที่ประชุม คตส.วันพรุ่งนี้ด้วย เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดสั่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป คดีนี้จะมีผู้ถูกชี้มูลหลายคน หนึ่งในนั้น คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ฐานใช้อำนาจในการออก พ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิต เกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคม ทำให้เกิดความเสียหาย
นายบรรเจิด ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนคดีการทุจริตจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของ กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนว่า ขณะนี้ผลการไต่สวนใกล้เสร็จแล้ว เรียกได้ว่าใกล้ถึงเส้นชัย จึงมั่นใจว่าจะสามารถสรุปผลการไต่สวนเสนอต่อที่ประชุม คตส.เพื่อให้มีมติส่งต่ออัยการสูงสุดเพื่อส่งฟ้องต่อศาลได้ทันในวาระของ คตส.ที่จะหมดภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้แน่นอน ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถบอกได้ว่า จะมีผู้ถูกกล่าวหารายใดหลุดข้อกล่าวหาหรือไม่ ทั้งนี้ หากที่ประชุม คตส.มีมติส่งต่ออัยการแล้ว เมื่อ คตส.หมดวาระก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าคดีจะมีปัญหา เพราะทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะรับคดีไปดูแลต่อ
นายบรรเจิด กล่าวว่า นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจตนเอง ครอบครัวและพวกพ้อง จะนำผลสรุปการไต่สวนเกี่ยวกับคดีอาญา เสนอเข้าที่ประชุม คตส.วันพรุ่งนี้ด้วย เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดสั่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป คดีนี้จะมีผู้ถูกชี้มูลหลายคน หนึ่งในนั้น คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ฐานใช้อำนาจในการออก พ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิต เกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคม ทำให้เกิดความเสียหาย
นายบรรเจิด ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนคดีการทุจริตจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของ กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนว่า ขณะนี้ผลการไต่สวนใกล้เสร็จแล้ว เรียกได้ว่าใกล้ถึงเส้นชัย จึงมั่นใจว่าจะสามารถสรุปผลการไต่สวนเสนอต่อที่ประชุม คตส.เพื่อให้มีมติส่งต่ออัยการสูงสุดเพื่อส่งฟ้องต่อศาลได้ทันในวาระของ คตส.ที่จะหมดภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้แน่นอน ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถบอกได้ว่า จะมีผู้ถูกกล่าวหารายใดหลุดข้อกล่าวหาหรือไม่ ทั้งนี้ หากที่ประชุม คตส.มีมติส่งต่ออัยการแล้ว เมื่อ คตส.หมดวาระก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าคดีจะมีปัญหา เพราะทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะรับคดีไปดูแลต่อ