นายดิเรก ลาวัลย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้า เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้เรียกเก็บค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือ เอฟที งวดเดือนมิถุนายน-กันยายน ที่อัตรา 62.85 สตางค์ต่อหน่วย ลดลงจากรอบที่ผ่านมา 6.01 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชนรอบใหม่นี้มีอัตราที่ 2.88 บาทต่อหน่วย ลดลงร้อยละ 2.05
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาค่าเอฟทีดังกล่าว มีทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยปัจจัยลบ อาทิ ท่อส่งก๊าซจากแหล่งเยตากุนในพม่าไม่สามารถจัดส่งได้ตามปกติ แต่คณะกรรมการเห็นว่ายังไม่ควรนำต้นทุนมาคำนวณค่าเอฟทีทั้งหมด เพราะการเจรจาค่าชดเชยจากผู้ผลิตก๊าซทั้ง 2 แหล่ง ยังไม่ได้ข้อยุติ ขณะที่ปัจจัยบวก คือสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำเพิ่มขึ้น และแผนการลงทุนเพื่อผลิตไฟฟ้าของ 3 การไฟฟ้าฯ ยังไม่เกิดขึ้น ทำให้ไม่มีภาระจากการลงทุน เมื่อนำปัจจัยทั้งหมดมาหักล้างกัน ทำให้ปรับลดค่าเอฟทีงวดใหม่นี้ได้ แต่ก็ขอให้ประชาชนเน้นประหยัดใช้ไฟฟ้าต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งแก่ตัวเองและประเทศ
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาค่าเอฟทีดังกล่าว มีทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยปัจจัยลบ อาทิ ท่อส่งก๊าซจากแหล่งเยตากุนในพม่าไม่สามารถจัดส่งได้ตามปกติ แต่คณะกรรมการเห็นว่ายังไม่ควรนำต้นทุนมาคำนวณค่าเอฟทีทั้งหมด เพราะการเจรจาค่าชดเชยจากผู้ผลิตก๊าซทั้ง 2 แหล่ง ยังไม่ได้ข้อยุติ ขณะที่ปัจจัยบวก คือสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำเพิ่มขึ้น และแผนการลงทุนเพื่อผลิตไฟฟ้าของ 3 การไฟฟ้าฯ ยังไม่เกิดขึ้น ทำให้ไม่มีภาระจากการลงทุน เมื่อนำปัจจัยทั้งหมดมาหักล้างกัน ทำให้ปรับลดค่าเอฟทีงวดใหม่นี้ได้ แต่ก็ขอให้ประชาชนเน้นประหยัดใช้ไฟฟ้าต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งแก่ตัวเองและประเทศ