เอกชนแนะ ธปท.ปรับดอกเบี้ย สู้ปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงในรอบ 10 ปี

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคม ที่สูงถึง 7.6% ว่า น่าเป็นห่วง ว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ได้ส่งผลทำให้ราคาสินค้าหลายรายการปรับขึ้น ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย ควรพิจารณาว่า ควรจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อดูแลไม่ให้เงินเฟ้อสูงขึ้นอีกหรือไม่
ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน หรือ กกร. กำลังรวบรวมปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งราคาน้ำมัน การขาดดุลการค้า ปัญหาทางการเมือง รวมถึงปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาก เพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรี โดยได้เสนอให้รัฐบาลช่วยดูแลปัญหาต้นทุนราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของค่าขนส่ง และต้นทุนวัตถุดิบ โดยใช้มาตรการในการลดภาษีต่างๆ ชั่วคราว เพื่อช่วยผู้ประกอบการไม่ให้ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าช่วงนี้
ด้านนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก จนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น เพราะหากไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อก็จะรุนแรงขึ้น
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของหลายประเทศในเอเชียที่พุ่งสูงขึ้น เป็นสิ่งที่บ่งชี้ได้ ว่า เอเชียกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุดอีกครั้ง หลังจากที่เคยเผชิญปัญหาค่าเงินเมื่อ 10 กว่าปีก่อน โดยคาดกันว่า ประเทศที่กำลังประสบปัญหาเงินเฟ้อจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่วนประเทศไทยการปรับขึ้นดอกเบี้ย อาจจะต้องพิจารณาถึงความผันผวนทางการเมืองด้วย เพราะหากปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลานี้ อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนได้