พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดงานสัมมนาและบรรยายพิเศษ เรื่อง R3E ประตูการค้าสู่ตลาดจีน ที่โรงแรมพิมาน จ.นครสวรรค์ ว่า กระทรวงพาณิชย์ มียุทธศาสตร์ที่สำคัญประการหนึ่ง คือการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล โดยการพัฒนาจะเน้นเสริมศักยภาพด้านการบริหารจัดการ และการตลาด ที่มุ่งให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาปรับตัวเอง เพื่อรองรับการแข่งขัน และเกิดความพร้อมและมั่นใจในการบริหารจัดการแบบมืออาชีพ
สำหรับตลาดเป้าหมายของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นอกจากตลาดภายในประเทศแล้ว ตลาดอาเซียน และตลาดจีน จะเป็นตลาดที่สร้างโอกาสใหม่ของเอสเอ็มอีไทย ซึ่งตลาดจีนถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจเป็นลำดับที่ 3 ของโลก และมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงมาก อย่างต่อเนื่อง ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา และในปัจจุบันการขนส่งทางบกสามารถขนส่งสินค้าเข้าสู่จีนได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเส้นทาง R3E เชื่อมโยงไทย ลาว จีน ที่เป็นเส้นทางใหม่ของภูมิภาค โดยมีไทยเป็นศูนย์กลางไปสู่ประเทศในอาเซียนตอนล่าง คือ มาเลเซีย และสิงคโปร์ จะทำให้ไทยได้ประโยชน์ในการกระจายสินค้าและขยายตลาดผ่านเส้นทางนี้
นอกจากนี้ เส้นทางสาย R3E จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศทั้ง 3 คือ ไทย ลาว และประเทศจีน สำหรับประเทศไทย จ.เชียงราย และจังหวัดภาคเหนือตอนบน จะได้รับประโยชน์ เนื่องจากมีอาณาเขตติดต่อกับพม่าและลาว และสามารถเชื่อมโยงไปจนถึงมณฑลยูนนานของจีน ส่งผลให้การค้าชายแดนของภาคเหนือตอนบนมีความสำคัญมากขึ้น จึงควรเตรียมการส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจในโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ
ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจจะต้องเตรียมยุทธศาสตร์เชิงรับ ต่อการที่จีนจะใช้เส้นทางสายนี้ เพราะเป็นเส้นทางหลักในการลำเลียงสินค้าราคาถูกเข้าสู่ไทย ดังนั้นเส้นทาง R3E จึงเป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคามที่เอสเอ็มอีในพื้นที่จะต้องตระหนัก รับรู้ และเข้าใจต่อความเปลี่ยนแปลงทางการค้าใหม่ที่จะเกิดขึ้น
สำหรับตลาดเป้าหมายของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นอกจากตลาดภายในประเทศแล้ว ตลาดอาเซียน และตลาดจีน จะเป็นตลาดที่สร้างโอกาสใหม่ของเอสเอ็มอีไทย ซึ่งตลาดจีนถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจเป็นลำดับที่ 3 ของโลก และมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงมาก อย่างต่อเนื่อง ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา และในปัจจุบันการขนส่งทางบกสามารถขนส่งสินค้าเข้าสู่จีนได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเส้นทาง R3E เชื่อมโยงไทย ลาว จีน ที่เป็นเส้นทางใหม่ของภูมิภาค โดยมีไทยเป็นศูนย์กลางไปสู่ประเทศในอาเซียนตอนล่าง คือ มาเลเซีย และสิงคโปร์ จะทำให้ไทยได้ประโยชน์ในการกระจายสินค้าและขยายตลาดผ่านเส้นทางนี้
นอกจากนี้ เส้นทางสาย R3E จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศทั้ง 3 คือ ไทย ลาว และประเทศจีน สำหรับประเทศไทย จ.เชียงราย และจังหวัดภาคเหนือตอนบน จะได้รับประโยชน์ เนื่องจากมีอาณาเขตติดต่อกับพม่าและลาว และสามารถเชื่อมโยงไปจนถึงมณฑลยูนนานของจีน ส่งผลให้การค้าชายแดนของภาคเหนือตอนบนมีความสำคัญมากขึ้น จึงควรเตรียมการส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจในโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ
ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจจะต้องเตรียมยุทธศาสตร์เชิงรับ ต่อการที่จีนจะใช้เส้นทางสายนี้ เพราะเป็นเส้นทางหลักในการลำเลียงสินค้าราคาถูกเข้าสู่ไทย ดังนั้นเส้นทาง R3E จึงเป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคามที่เอสเอ็มอีในพื้นที่จะต้องตระหนัก รับรู้ และเข้าใจต่อความเปลี่ยนแปลงทางการค้าใหม่ที่จะเกิดขึ้น