นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า ได้รับทราบเป็นการภายในแล้ว ที่อัยการสูงสุด หรือ อสส.ตีกลับสำนวนยุบพรรคชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตย เนื่องจากยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องสอบเพิ่มเติม แต่ยังไม่มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ระหว่างตัวแทนอัยการสูงสุดกับ กกต. เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไรเพราะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นการยื้อเวลาของอัยการสูงสุด
ด้านนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า กกต.มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวตามกฎหมาย ส่วนอัยการสูงสุดพิจารณาโดยข้อเท็จจริงเป็นหลัก ซึ่งอาจมองว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ต้องรอฟังการทำงานของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นร่วมกันว่าจะมีความเห็นอย่างไร แต่หากไม่สามารถหาข้อยุติได้ภายใน 30 วัน ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง สามารถขอมติที่ประชุม กกต. เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องพิจารณาหลักฐานรอบด้าน เพราะการยุบพรรคจะกระทบหลายฝ่าย
ด้านนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า กกต.มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวตามกฎหมาย ส่วนอัยการสูงสุดพิจารณาโดยข้อเท็จจริงเป็นหลัก ซึ่งอาจมองว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ต้องรอฟังการทำงานของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นร่วมกันว่าจะมีความเห็นอย่างไร แต่หากไม่สามารถหาข้อยุติได้ภายใน 30 วัน ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง สามารถขอมติที่ประชุม กกต. เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องพิจารณาหลักฐานรอบด้าน เพราะการยุบพรรคจะกระทบหลายฝ่าย