กกต.มึนเหตุ อสส.ตีกลับสำนวนยุบพรรค ชท.-มฌ.อ้างพยานหลักฐานไม่สมบูรณ์ เตรียมตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่ายแล้ว ชี้ช่องหากไม่สามารถหาข้อยุติได้ภายใน 30 วัน นายทะเบียบพรรคการเมือง ส่งเรื่องศาล รธน.วินิจฉัยยุบพรรคได้เอง
วันนี้ (22 พ.ค.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวหลังการประชุม กกต.ว่า ที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมขึ้นมา 1 ชุด เพื่อพิจารณาสำนวนคำร้องการยุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ภายหลังจากได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักงานอัยการสูงสุด โดยแจ้งให้ทราบว่าสาเหตุที่ไม่รับสำนวนเสนอยุบพรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตยไว้พิจารณา เนื่องจากพยานหลักฐานไม่สมบูรณ์เพียงพอ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์เพียงพอที่อัยการแจ้งนั้นมาจากสาเหตุใด โดยการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมตนจะพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว
ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า การส่งสำนวนคำร้องยุบ 2 พรรคกลับ มายัง กกต.เป็นเรื่องที่อัยการสูงสุดสามารถทำได้ตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพื่อขอให้ กกต.ทบทวนได้ ทั้งนี้ ตนคิดว่าการที่อัยการสูงสุดส่งเรื่องกลับมานั้นเป็นเพราะอัยการสูงสุด และ กกต.มีความเห็นต่างกัน โดยอัยการสูงสุดจะพิจารณาจากการให้ใบแดงของ กกต.จว.ชัยนาทเป็นหลัก ส่วนการพิจารณาของ กกต.นั้นยึดตามกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งท้ายที่สุด กกต.ก็สามารถมีมติเห็นต่างจาก กกต.จังหวัดได้ และถือว่าความเห็นของ กกต.กลางเป็นที่สิ้นสุด
“คิดว่าการที่อัยการสูงสุดส่งเรื่องกลับมาคงไม่มีปัญหา อาจเห็นว่าข้อเท็จจริงยังไม่เพียงพอ ดังนั้น จากนี้ไปก็เป็นเรื่องที่ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง จะตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้แทนจากอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาให้ข้อมูลต่างๆ ชัดเจน และรอบคอบมากขึ้น เพราะเรื่องยุบพรรคการเมืองนั้น เป็นเรื่องที่มีผลกระทบ”
ส่วนนายทะเบียนพรรคการเมืองจะขอมติจากที่ประชุม กกต.เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเองหรือไม่นั้น ต้องขอดูความเห็นของคณะทำงานร่วมฯ ก่อนจึงจะตอบได้”
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารเลือกตั้ง กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเอกสารจากอัยการสูงสุดกรณีดังกล่าวแล้วโดยให้เหตุผลว่ายังมีพยานหลักฐานไม่ครบถ้วน ซึ่งหลังจากนี้ นายทะเบียนพรรคการเมืองจะต้องตั้งคณะกรรมการระหว่าง กกต.และอัยการสูงสุด ขึ้นมาพิจารณาในประเด็นที่ยังไม่ครบถ้วนภายใน 30 วัน โดยคณะทำงานฯชุดดังกล่าวจะสามารถสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมได้ตามแต่ดุลพินิจ แต่ยังไม่ทราบว่าประเด็นที่ทางอัยการสูงสุดเห็นว่าไม่ครบถ้วนคืออะไร หากพ้นเวลา 30 วันไปแล้วยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ กกต.ก็สามารถส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบพรรคได้เอง
“การที่อัยการสูงสุดส่งเรื่องกลับมายัง กกต.คิดว่า ไม่ได้เป็นการยื้อเวลา เพราะทุกฝ่ายทำตามหน้าที่ อัยการสูงสุดในฐานะทนายแผ่นดินก็ต้องการพิจารณาข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน”