xs
xsm
sm
md
lg

“อัยการ” ตีกลับสำนวนยุบชาติไทย-มัชฌิมาฯ อ้างต้องสอบเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตามคาด “อัยการ” ตีกลับสำนวนยุบพรรคชาติไทย-มัชฌิมาธิปไตย อ้างเหตุต้องสอบเพิ่มเติม พร้อมเตรียมทำหนังสือแจ้งประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียน 22 พ.ค.นี้ เพื่อขอตั้งคณะทำงานร่วม

วันนี้ (21 พ.ค.) แหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการพิจารณาสำนวนคดียุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ว่า ที่ประชุมคณะทำงาน โดย นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด ประธานคณะทำงาน พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนวนทั้ง 2 พรรคการเมืองยังมีประเด็นต้องสอบเพิ่มเติมหลายข้อ ดังนั้น คณะทำงานอัยการจึงเตรียมทำหนังสือแจ้ง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ทราบภายในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 มาตรา 95 ที่ว่า เมื่ออัยการสูงสุดได้รับแจ้งจาก กกต.พร้อมหลักฐานแล้วก็ต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ถ้าอัยการสูงสุดเห็นสมควร ก็ให้ยื่นคำร้องเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าว แต่ถ้าอัยการสูงสุดไม่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ตั้งคณะทำงานขึ้นคณะหนึ่ง โดยมีผู้แทนจากนายทะเบียน และผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วส่งให้อัยการสูงสุดเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ซึ่งตัวแทนจากอัยการจะเป็นใครบ้าง เป็นอำนาจของนายอภิชาต นายทะเบียนพรรคที่จะแต่งตั้ง แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่า นายจุลสิงห์ รองอัยการสูงสุด ประธานคณะทำงานอัยการ น่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานร่วมเพราะเป็นผู้พิจารณาสำนวนมาตั้งแต่ต้น

แหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวด้วยว่า การแต่งตั้งคณะทำงานดังกล่าว ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องแต่งตั้งขึ้นเมื่อใด เพียงแต่กฎหมายระบุว่า เมื่อแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกันแล้วให้สรุปเรื่องภายใน 30 วัน และถ้ากรณีที่คณะทำงานดังกล่าวไม่อาจหาข้อยุติเกี่ยวกับการดำเนินการยื่นคำร้องได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่แต่งตั้งคณะทำงาน ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองโดยความเห็นชอบของ กกต.มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอง

นอกจากนี้ แหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงรายละเอียดประเด็นทั้งหมดที่จะสอบเพิ่มเติม โดยระบุเพียงว่า จะต้องตรวจพิจารณาเกี่ยวกับคำวินิจฉัยกรรมการเลือกตั้งจังหวัดชัยนาท และจังหวัดปราจีนบุรี อีกครั้ง เพราะการวินิจฉัยของกกต. จังหวัดไม่ได้แจกใบแดง แต่ในชั้นของ กกต.กลาง กลับมีมติแจกใบแดง จึงเป็นข้อแตกต่างที่ต้องพิจารณาด้วย ซึ่งในสำนวน กกต.ที่ส่งมาให้อัยการนั้นไม่มีคำวินิจฉัยของ กกต. จังหวัดดังกล่าว รวมทั้งการรวบรวมสำนวนคดีที่พรรคชาติไทย ระบุว่า มีการฟ้องกลับคดีหลังจากที่ผู้สมัครถูกวินิจฉัย
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ว่าที่หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย
กำลังโหลดความคิดเห็น